Skip to main content

MBA Class : Global Business Experience at Osaka

คณะนิสิตกลุ่ม MBA Young Executive รุ่นที่ 31/1 ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อรับประสบการณ์การเรียนรู้จากการเรียนในคลาสวิชา “Global Business Experience”

ทริป Global Business Experience ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก GLOBIS University หลักสูตร MBA อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ร่วมเป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่นิสิต MBA ของเราอยู่ที่โอซาก้า ระหว่างวันที่ 2 – 6 มิถุนายน 2568
📍 Day 1: Global Business Experience @ Osaka
Theme: Japanese Management and Sustainability 🇯🇵🌿
📚 เช้าวันแรกของคลาส นิสิตได้เรียนรู้ผ่านการบรรยายของ Prof. Jake Pratley จาก GLOBIS University ถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองหลังสงครามโลก จนถึงภาวะชะลอตัวในปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากทั้งปัจจัยระดับโลกและการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมในประเทศ
👥 ญี่ปุ่นในปัจจุบันกำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุ ครอบครัวขนาดเล็ก และอัตราคนโสดที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่คล้ายคลึงกับประเทศไทยในหลายมิติ นำไปสู่การปรับกลยุทธ์ของทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจท้องถิ่น เพื่อมองหา “โอกาสใหม่ในข้อจำกัด”
💡 Prof. Jake ยกตัวอย่างนวัตกรรมธุรกิจที่เกิดจากการตอบโจทย์สังคม เช่น:
• ร้านปิ้งย่าง/ราเมน/คาราโอเกะสำหรับคนเดียว
• ธุรกิจจัดงานศพแบบเฉพาะบุคคล
• รถไฟท่องเที่ยวสุดหรูระดับ 7 ดาว
• โรงเรียนติวเตอร์สำหรับผู้สูงวัย
• การนำหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
🧘‍♂️ นอกจากนี้ นิสิตยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อวิธีคิดทางธุรกิจ เช่น “Kyūdō” (Japanese Archery) ที่สะท้อนถึงสมาธิ ความแม่นยำ และความเคารพในกระบวนการ
📊 ปิดท้ายด้วยการวิเคราะห์กรณีศึกษาแบรนด์ Godiva ที่ต้องเผชิญความท้าทายจากพฤติกรรมผู้บริโภคญี่ปุ่นที่นิยมซื้อสินค้าตามฤดูกาล และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร ทำให้ต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ในการเพิ่มยอดขาย
📸 ส่วนบรรยากาศการเรียนรู้และไอเดียกลยุทธ์ที่นิสิตแต่ละกลุ่มเสนอ… ขอให้ภาพเล่าเรื่องแทนคำพูดแล้วกัน 😉

ต่อมา ทางคณะนิสิต MBA ได้มีโอกาสเรียนรู้จาก Prof. Suzuka Kobayakawa จาก GLOBIS University ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานกับ United Nations Development Programme (UNDP) และเคยใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศ อาทิ เนปาล ไนจีเรีย และสหรัฐอเมริกา ประสบการณ์เหล่านี้จุดประกายให้เธอกลับมาพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศบ้านเกิดของตนเอง ประเทศญี่ปุ่น 🇯🇵

💬 Prof. Suzuka ถ่ายทอดถึงปัญหาสังคมที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ เช่น
• ผู้สูงอายุในต่างจังหวัดที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีโอกาสพูดคุยหรือพบเจอผู้อื่นเป็นเวลาหลายวัน
• ความท้าทายของผู้หญิงที่ต้องทำงานนอกบ้านพร้อมกับเลี้ยงดูครอบครัว และ
• ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น สึนามิและแผ่นดินไหว ซึ่งทำให้ชุมชนต้องรวมพลังกันสร้างสรรค์ธุรกิจที่ยั่งยืนและเกื้อหนุนสังคม
🤝 ในช่วงท้ายของคลาส นิสิต MBA ได้ร่วมวิเคราะห์กรณีศึกษา KIBOW Impact Investment Funds ซึ่งเป็นตัวอย่างจริงของ Social Entrepreneurship จาก GLOBIS University ที่เกิดขึ้นภายใต้ KIBOW Foundation ซึ่งเป็นโมเดลของการลงทุนเพื่อสังคมที่ส่งเสริมทั้งความยั่งยืนของธุรกิจและความเข้มแข็งของชุมชน โดยความสำเร็จของ KIBOW เกิดจากความร่วมมือของ stakeholder ทุกฝ่ายที่ต้องการทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม
✨ บทเรียนสำคัญที่ได้จากวันนี้คือ…
“You are more resourceful than you think.”
หวังว่าแรงบันดาลใจนี้จะผลักดันให้นิสิต MBA ของเราเป็นผู้ริเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยต่อไป
🌱 เปิดโลกการรีไซเคิลกับ Panasonic Recycling Factory ประเทศญี่ปุ่น ♻️
ในวันที่สองของการเรียน นิสิต MBA ของเราได้รับโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชม โรงงานรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของ Panasonic โรงงานแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ดำเนินงานภายใต้บริษัทผู้ผลิตโดยตรง!
🇯🇵 ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีมาตรการด้านการรีไซเคิลเข้มงวดที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เนื่องจากพื้นที่จำกัดและความเสี่ยงจากโลหะหนักและสารพิษในเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงมีกฎหมายที่กำหนดให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก เช่น ทีวี ตู้เย็น แอร์ และเครื่องซักผ้า ต้องถูกรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดย ผู้บริโภคมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมรีไซเคิลเมื่อมีการทิ้งหรือเปลี่ยนสินค้า ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้สามารถชำระผ่านร้านค้าที่รับคืนสินค้า หรือที่ทำการไปรษณีย์ร่วมกับระบบคูปองรีไซเคิลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อให้การจัดการของเสียมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้
👷‍♀️ ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การถอดแยกเครื่องซักผ้า ทีวี แอร์ และตู้เย็น โดยเริ่มจากแรงงานมนุษย์ ไปจนถึงการใช้ หุ่นยนต์และ AI ช่วยจัดการวัสดุอันตราย เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่มีสารปรอท หรือสารทำความเย็นจากคอมเพรสเซอร์
🔧 ทุกชิ้นส่วนจะถูกแยกตามประเภทวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก โลหะ หรือแผงวงจร ก่อนเข้าสู่กระบวนการบด ย่อย และแยกด้วยเทคโนโลยี เช่น แม่เหล็กและระบบแยกตามน้ำหนัก เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🌍✨ กิจกรรมนี้ไม่เพียงแค่ให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปิดมุมมองใหม่เรื่อง “ความรับผิดชอบของธุรกิจและผู้บริโภคต่อทรัพยากรของโลก” ในเชิง ระบบคิดแบบยั่งยืน อย่างแท้จริง
ในช่วงบ่าย นิสิต MBA ของเราได้มีโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชม Shirayuki Sake Brewery ของตระกูล Konishi ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานสาเกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1550 และยังคงดำเนินกิจการโดยครอบครัวเดียวกันมายาวนานถึง 15 รุ่น
🏯 โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอิตามิ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการผลิตสาเกเพื่อส่งไปยังเมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) โดยใช้การขนส่งทางเรือ ท่ามกลางความเสี่ยงของการเดินทางในอดีต แต่บรรพบุรุษของตระกูล Konishi สามารถปรับตัวและวางระบบธุรกิจเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง และพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแยบยล
💬 ในการบรรยายของ ประธานบริษัทรุ่นที่ 15 Mr. Shinuemon Konishi ได้กล่าวถึงแนวทางการผสานระหว่าง ภูมิปัญญาดั้งเดิม และ นวัตกรรมยุคใหม่ เช่น การคงกระบวนการหมักแบบดั้งเดิมในบางขั้นตอน ร่วมกับการพัฒนาเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ เพื่อตอบโจทย์ตลาดปัจจุบันที่ต้องการทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ
🗣️ อีกหนึ่งแง่มุมสำคัญที่ประธานบริษัทเน้นย้ำคือ “การสื่อสาร” ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้าในอดีตผ่านระบบขนส่ง หรือการสื่อสารกับผู้บริโภคในยุคใหม่ผ่านเทคโนโลยีและเรื่องราวของแบรนด์
🥂 ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการ ชิมสาเกหลากหลายชนิด ที่ผลิตด้วยวิธีดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่ รสชาติที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์…น่าเสียดายที่เราไม่สามารถถ่ายทอดรสชาติผ่านภาพหรือคำบรรยายได้
วันที่สามของกิจกรรม นิสิต MBA ได้เรียนรู้วิสัยทัศน์ของงาน Expo 2025 Osaka จาก Prof. Takeo Mori ผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ Pavilion ของภูมิภาคคันไซ ภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” ที่แบ่งออกเป็น 3 แกนสำคัญ:
💡 Saving Lives
💡 Empowering Lives
💡 Connecting Lives
✨ Expo ครั้งนี้ถูกออกแบบให้เป็น “People’s Living Lab” หรือห้องทดลองสำหรับอนาคตของมนุษยชาติ ที่จะเชื่อมโลกให้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง หลังผ่านช่วงเวลาของความห่างเหินจาก COVID-19 โดยมี Grand Ring โครงสร้างไม้ขนาดยักษ์รอบเกาะยูเมะชิมะ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมโยงโลกทั้งใบ 🌍
🏝️ ไฮไลต์อีกอย่างคือสถานที่จัดงานบนเกาะยูเมะชิมะ ซึ่งเป็นเกาะที่สร้างขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล เป็นตัวอย่างของการออกแบบเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง
🧭 หลังบรรยาย นิสิตได้เข้าเยี่ยมชม Pavilion ต่าง ๆ ของนานาชาติและองค์กรชั้นนำทั่วโลก ที่สะท้อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคตในมิติต่าง ๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save