Skip to main content

Announce the list name of applicants for CU-BEST(English) 2/2025

Announce the list name of applicants for CU-BEST(English) 2/2025
ประกาศเลขที่สอบและผังสอบ การสอบ CU-BEST(English) 2/2025


[ Exam Room ]

Applicants can check ID-TEST and Exam room information by log in through
CUBEST(English) Application Website
( Tab “Application” –>”Your Application” —> Button “Print Test Place”

*Applicants can check names and exam numbers on the exam day
at the base of 50 th Anniversary Building too.

 


Exam Date : Sunday, December14, 2025. (9am – 12 pm)
Score Announcement : Wednesday, December17, 2025.
through CUBEST(English) Application Website
( Tab “History and Result”


 


MAP OF CBS

ระเบียบในการสอบ CU-BEST(English) : Test Taking Policy

1. เวลาเริ่มสอบ 9.00 น. – 12.00 น.
The duration of exam is between 9.00 am – 12.00 pm

2. ผู้ที่มาหลังเวลา 9.30 น. จะไม่อนุญาติให้เข้าสอบ
Any Person arrive later than 9.30 am will not be allow to take exam.

3. ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุมาแสดงเพื่อเป็นหลักฐานต่อ
  เจ้าหน้าที่คุมสอบ และจะต้องแสดงหลักฐานหากมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ / นามสกุล
  ระหว่างช่วงการสมัคร
Applicants must present their valid Thai national ID card/passport with their current pictures
     to participate in the room. Those who had their names or last names changed must also
     present formal evidence of the changes.  

4. ห้ามใช้เครื่องคำนวณทุกประเภท  และ ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
Do not use calculator in the exam. Turn off any communication devices during exam.

5. ต้องแต่งกายสุภาพในการเข้าสอบ
Wear proper attire

6. ห้ามคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อสอบ  ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดๆออกไปนอกห้องสอบโดยเด็ดขาด
Regardless of a means, the exam contents must not be copied, duplicated or taken out of the exam location.

7. หากทุจริตในการสอบ จะโดนตัดสิทธิ์ในการสอบ CU-BEST ตลอดไป
In case of cheating, the applicants will not be allowed to take the exam again.


————————————————————————————————-
 In accordance with measures and guidelines required by related authorities. All Applicants are required to wear a mask at all times when they are in the the exam room.

หลักสูตร MBA CHULA เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ ประจำปีการศึกษา 2569

หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
Chulalongkorn Business School
เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ประจำปีการศึกษา 2569
——————————————————–

MBA YOUNG EXECUTIVE # 33/1
เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
MBA ENGLISH PROGRAM # 21
เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
MBA EXECUTIVE #42
เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 15 มกราคม – 31 กรกฏาคม 2569
MBA REGULAR # 45 
เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2569
MBA YOUNG EXECUTIVE # 33/2
เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 กรกฏาคม 2569

 

ข้อมูลแต่ละโปรแกรม
https://mba.cbs.chula.ac.th/?page_id=292

กำหนดการ  CUBEST 2569
———————————-
CUBEST 1/2569
รับสมัครระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2569
สอบวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2569*
*สามารถใช้ผลคะแนนเพื่อสมัครสอบในหลักสูตรที่ปิดรับสมัครวันที่ 31 มีนาคม 2569 ได้
รายละเอียด


CUBEST(English) 1/2026
Application period : February1 – March4, 2026
Exam Date : March 15, 2026*
*The scores can be used to apply for MBA English Program # 21
More info.

นิสิต MBA Executive ได้รับรางวัลจากเวที Thailand Franchise Award (TFA) 2025

หลักสูตร MBA คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอแสดงความยินดีกับ คุณวรากร ทองเจริญ  นิสิต MBA Chula Executive รุ่นที่ 37
ผู้ก่อตั้ง บริษัท มีความสุข จำกัด 
แบรนด์ “มีความสุข ชานมไข่มุกกระบอก” ที่ได้รับรางวัล Best Medium Franchise 2025
จากเวที Thailand Franchise Award (TFA) 2025 จัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 โดยได้รับเกียรติจากคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็นประธานในพิธีและผู้มอบรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้

Thailand Franchise Award (TFA)
เป็นเวทีเชิดชูเกียรติธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่มีมาตรฐานโดดเด่น ครอบคลุมด้านระบบบริหารจัดการ นวัตกรรม
การสนับสนุนแฟรนไชส์ซี และศักยภาพการเติบโตเชิงพาณิชย์ โดยมีแบรนด์ชั้นนำทั่วประเทศเข้าร่วมประกวด
เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน

นิสิต MBA Young Executive รุ่นที่ 31/2 ศึกษาดูงานที่เมืองโฮคุโตะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น 

Global Business Experience – MBA Young Executive 31/2
 
คณะนิสิต MBA Young Executive รุ่นที่ 31/2 ศึกษาดูงานที่เมืองโฮคุโตะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น 
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 วันแรกของกิจกรรม “Hokuto City Office and Wakamiro”
ในช่วงเช้า คณะนิสิตเดินทางโดยรถบัสจากโตเกียวสู่เมืองโฮคุโตะ เมืองที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเทือกเขายัตสึกะทาเกะ และเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากท่านคุนิฮิโกะ โอชิบะ นายกเทศมนตรีเมืองโฮคุโตะ ณ ศาลาว่าการเมือง ก่อนเดินทางเข้าสู่ที่พัก “วาคามิโระ” เรียวกังเพียงแห่งเดียวของเมืองที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี
ในช่วงเย็น คณะนิสิตและอาจารย์ได้เปลี่ยนชุดเป็น “ยูกาตะ” ชุดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เข้าร่วมฟังการบรรยายจากคุณโคจิ ยามาชิตะ ผู้บริหารเรียวกังวาคามิโระ ภายในห้องซึ่งก่อสร้างด้วยไม้สนซีดาร์จากอะกิตะ มอบบรรยากาศอบอุ่นและกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยคุณยามาชิตะได้เล่าถึงจุดแข็งและอุปสรรคของเมือง พร้อมทั้งตอกย้ำพันธกิจของวาคามิโระที่มุ่งมั่น “สร้างเรียวกังที่เป็นความภาคภูมิใจของชุมชนและคนในพื้นที่” รวมถึงแบ่งปันแนวทางการพัฒนาโรงแรมที่มุ่งเน้นการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบกลุ่มเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยวของเมืองโฮคุโตะอีกด้วย
หลังจากนั้น คณะนิสิตได้ร่วมรับประทานอาหารแบบไคเซกิ ซึ่งปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่น ตามสไตล์ญี่ปุ่นหรือ Washoku 
ประสบการณ์ในวันนี้ไม่เพียงเปิดมุมมองใหม่ด้านการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อนำไปต่อยอดทักษะและประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจในอนาคต แต่ยังสะท้อนถึง “Omotenashi” หรือหัวใจแห่งการบริการแบบญี่ปุ่น ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง
“ARSOA KEIO GROUP”
วันที่ 2 ของการศึกษาดูงาน (4 พฤศจิกายน 2568) ณ เมืองโฮคุโตะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงเช้า คณะนิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต รุ่นนักบริหารระดับต้น รุ่นที่ 31/2 ได้เข้าร่วมการศึกษาดูงาน ณ ARSOA KO Group กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นที่มุ่งสร้างความงามและสุขภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Harmony with Nature – ความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ” 
โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่เมืองโฮคุโตะ
แบรนด์ ARSOA ถือกำเนิดขึ้นในปี 1972 ในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากประสบปัญหาผิวพรรณจากการใช้สารเคมีในเครื่องสำอาง จึงเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ นำไปสู่การสร้าง สบู่ดำ “ARSOA Queen Silver” สบู่ที่รวมพลังของ แร่ธาตุ + สารอาหารจากธรรมชาติ (ออนเซน) + ถ่านบริสุทธิ์ (Charcoal) ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและสารพิษออกจากผิวและช่วยฟื้นฟูสมดุลและความแข็งแรงของผิวได้จากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งกลายเป็นผลิตภัณฑ์สัญลักษณ์ของบริษัทและเป็นหัวใจที่ทำให้ ARSOA อยู่คู่ผู้บริโภคมากว่า 53 ปี
ในปี 1998 บริษัทได้ตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่จากย่านชิบุย่า โตเกียว มายัง เมืองโฮคุโตะ ยามานาชิ เพื่อให้สอดคล้องกับ Purpose ขององค์กรที่เชื่อว่า “เมื่อคนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน จะนำไปสู่สุขภาพที่ดีและความสุขที่แท้จริง”การย้ายครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนจากบริษัทเครื่องสำอาง สู่การขยายธุรกิจด้าน อาหารเสริมและอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเริ่มต้นจากการจัดตั้งโรงอาหารออร์แกนิกสำหรับพนักงาน ซึ่งดำเนินตามหลัก Macrobiotic เน้นไม่ให้วัตถุดิบเหลือทิ้ง ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และจัดสมดุลระหว่างอาหารธาตุเย็นกับธาตุร้อน ต่อมาได้ขยายสู่ธุรกิจเกษตรกรรมบนพื้นฐานของสามคำสำคัญ คือ อาหาร – เกษตร – ดิน โดยให้อาหารช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เกษตรอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และดินได้รับการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
ในด้านสิ่งแวดล้อม ARSOA ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์น้ำและระบบนิเวศ โดยร่วมกับชุมชนปลูกป่า รักษาความสะอาดแม่น้ำลำธาร และนำน้ำฝนมาใช้ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ที่ออกแบบอย่างยั่งยืน บริษัทสามารถ รีไซเคิลของเหลือจากกระบวนการผลิตได้ถึง 99% ตั้งแต่ปี 2014 รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์แชมพูที่ จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ 100% ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
นอกจากนี้ ARSOA ยังดำเนินกิจกรรมด้าน SDGs อย่างต่อเนื่อง เช่น
(1)ช่วยเหลือเด็กข้างถนนทั่วโลกผ่านโครงการวาดภาพทำปฏิทินการกุศล (2)ส่งเสริมเยาวชนญี่ปุ่นปีนเขาฟูจิเพื่อสร้างกำลังใจหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และ
(3) ลดการใช้น้ำ น้ำมัน และพลังงานในกระบวนการผลิต
อาคารสำนักงานใหญ่ยังเป็นตัวอย่างของการออกแบบเชิงนิเวศที่ได้รับรางวัล ทั้งยังมีแท็งก์เก็บน้ำฝน และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าในการก่อสร้าง สะท้อนแนวคิด “อยู่ร่วมกับธรรมชาติ” อย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้ ARSOA ยืนหยัดได้กว่า 50 ปี คือพลังของผลิตภัณฑ์ ARSOA Silver และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้แทนจำหน่ายและชุมชน การขายผ่านระบบ MLM (Multi-Level Marketing) เติบโตจากความเชื่อจริงของผู้ใช้ “ใช้แล้วดี ดีจริง จึงชวนเพื่อนมาใช้” ควบคู่กับความรู้สึก ขอบคุณ ของผู้บริหารต่อพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และธรรมชาติ ซึ่งเป็นหัวใจของการเติบโตอย่างยั่งยืน
ในปัจจุบัน บริษัทได้ขยายการลงทุนสู่ ไต้หวันและจีน โดยในไต้หวัน ARSOA บริหารจัดการเองโดยตรง รักษามาตรฐานเทียบเท่าญี่ปุ่น ส่วนในจีน ร่วมมือกับ พันธมิตรท้องถิ่น (Local Partner) เปิดร้านจำหน่ายภายใต้ชื่อ ARSOA เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดจีน
Mindset ของ ARSOA:
“สิ่งที่ดีต่อร่างกาย คือสิ่งที่ดีต่อผิว และสิ่งที่ดีต่อจิตใจ คือสิ่งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และโลก”
การศึกษาดูงานในครั้งนี้ทำให้คณะนิสิตได้เห็นภาพรวมขององค์กรที่ผสาน ความงาม สุขภาพ และความยั่งยืน ไว้อย่างสมดุล และเข้าใจว่าเหตุใด ARSOA จึงเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างงดงามและยั่งยืน
ในช่วงบ่าย คณะนิสิต MBA ได้เข้ารับฟังการบรรยายในหัวข้อ “Suntory Philosophy and Sustainable Initiatives” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของ Suntory ในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและการดูแลแหล่งน้ำใต้ดิน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ และสะท้อนถึงคำมั่นสัญญาภายใต้แนวคิด “Mizu To Ikiru – Living with Water” โดยในปี 2030 บริษัท Suntory ตั้งเป้าลด อัตราการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิต (Water Intensity) ลง 35% ผลักดันการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลแบบ Bottle-to-Bottle ให้ได้ 100% และลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emissions) ทั้งในระดับโรงงานและตลอดห่วงโซ่อุปทานให้ได้สูงสุด 50%
 
จากนั้นคณะนิสิตได้เข้าเยี่ยมชม Suntory Natural Mineral Water Plant เพื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตและบรรจุน้ำแร่อย่างเป็นระบบ ก่อนปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชม Suntory Hakushu Distillery & Whisky Museum  ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้ได้ศึกษาความเชี่ยวชาญด้านการผลิตวิสกี้ที่ผูกพันกับคุณภาพน้ำบริสุทธิ์จากผืนป่า
การศึกษาดูงานที่ Suntory ในครั้งนี้ช่วยเสริมมุมมองด้านความยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และแนวทางการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก
วันที่ 3 ของการศึกษาดูงาน (5 พฤศจิกายน 2568)
ในช่วงเช้า คณะนิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต รุ่นนักบริหารระดับต้น รุ่นที่ 31/2 ได้เข้าร่วมการศึกษาดูงาน ณ Seisen-ryo เพื่อเรียนรู้แนวคิดและปรัชญาการทำงานที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการศึกษาประวัติของ ดร. พอล รัช (Dr. Paul Rusch) ผู้ก่อตั้งและผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแนวคิด “Do Your Best” หรือ “ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด” ซึ่งเป็นปรัชญาที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความเรียบง่าย และความจริงใจในการทำงานเพื่อสังคม ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานของ Seisen-ryo จนถึงปัจจุบัน
กิจกรรมสำคัญของการดูงานคือ การเรียนรู้ธรรมชาติและการเดินป่า (Nature Education) ที่มุ่งเน้นการสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างลึกซึ้งและสร้างความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า Seisen-ryo ถือเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ธรรมชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น ซึ่งโรงเรียนและครูมักพานักเรียนมาทัศนศึกษา เพื่อปลูกฝังความรักและความเคารพต่อธรรมชาติ
นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้ศึกษาการสร้างคุณค่าทางธุรกิจผ่านแนวคิด “คุณภาพและความยั่งยืน” โดยมีตัวอย่างจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากฟาร์มเจอร์ซีย์ออร์แกนิกมาสร้างสรรค์เป็นสินค้าที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์
การศึกษาดูงานในครั้งนี้จึงไม่เพียงมอบประสบการณ์ทางธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่ผสานปรัชญาการทำงานเข้ากับการบริหารธุรกิจอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
วันที่ 4 ของการศึกษาดูงาน (6 พฤศจิกายน 2568)
ณ บริษัท Hashimoto Sogyo Co., Ltd. เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
คณะนิสิตหลักสูตร MBA Young Executive รุ่นที่ 31/2 ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากท่านประธานและคณะผู้บริหารของ บริษัท Hashimoto Sogyo Co., Ltd. ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นด้านโลจิสติกส์ การบริหารจัดการธุรกิจแบบบูรณาการ และการสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม
การบรรยายได้ถ่ายทอดภาพรวมขององค์กรและแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “Value for All Stakeholders” โดยมีกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
Challenge 10 / 3 Fulls / 7 Mirai Projects
ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้บริโภคขั้นสุดท้าย
บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านแนวคิด Evolving Activities และการจัดตั้ง Mirai Academy เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ และการฝึกอบรมบุคลากร ภายใต้หลักความยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ Hashimoto Sogyo ยังดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรจากระบบ Top-down สู่ Bottom-up เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง (Self-reliance) และเติบโตไปพร้อมกับองค์กรอย่างมีส่วนร่วม
เป้าหมายหลักของ HAT (Hashimoto Advanced Technology)
ก้าวสู่การเป็นองค์กรอันดับ 1 ในระดับภูมิภาค และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายภายในกลุ่ม (Mirai Group Strengthening)
มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีเอกลักษณ์ (Distinctive Company) ด้วยแนวคิด 7 Mirai
ผู้บริหารยังได้แบ่งปันมุมมองต่อความท้าทายของอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน ทั้งระดับโลกและระดับประเทศ เช่น สถานการณ์ “Global Trump” และ “Japan Takaichi” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้ HAT มุ่งเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายใน และปรับตัวด้วยแนวคิด “Renovate – Reform & Renewal” เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในช่วงการศึกษาดูงาน นิสิตยังได้ร่วมกิจกรรม ฝึกปฏิบัติการเชื่อมต่อท่อน้ำ (Joining / Cutting / Welding) ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำ เพื่อฝึกการทำงานเป็นทีมและเข้าใจการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมจริง
ข้อคิดสำคัญจาก HAT
“Honest, Empathy, and Commitment”
ความจริงใจ การรักษาคำพูด ความเอื้ออาทร และความตั้งใจในการทำงาน คือรากฐานของความสัมพันธ์และเครือข่ายที่ยั่งยืน
ในด้านเทคโนโลยี HAT ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ AI และ BIM (Building Information Modeling) เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านการออกแบบ การจำลอง (VR / Mock-up / Animation) และการวิเคราะห์วัสดุ (Material Analysis) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้างและบริหารโครงการ
ศูนย์ฝึกอบรมของ HAT ใช้แนวทาง Solution-Based Learning ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะได้อย่างเท่าเทียม พร้อมทั้งมีโครงการต้นแบบด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (Model-T for Solar Power) เป็นตัวอย่างของการนำนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน
การศึกษาดูงานในครั้งนี้ไม่เพียงมอบองค์ความรู้ด้านกลยุทธ์และการบริหารองค์กร แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คณะนิสิตตระหนักถึงคุณค่าของการ “ใส่ใจและสร้างคุณค่า” ให้กับผู้คนและสังคม ซึ่งเป็นหัวใจของ Hashimoto Sogyo และเป็นแนวคิดสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจปัจจุบัน

ประกาศเลขที่นั่งสอบและผังสอบ CUBEST ครั้งที่4/2568

ประกาศเลขที่นั่งสอบและผังสอบ CUBEST ครั้งที่ 4/2568

วันสอบ : วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 :   เวลา 9.00-12.00 น.

[ รายชื่อและเลขที่สอบ ] – ตรวจสอบจากระบบรับสมัครสอบ CUBEST ONLINE ในเมนู “ใบสมัคร” เมนูย่อย “ใบสมัครของท่าน” -> “พิมพ์สถานที่สอบ”

[ ประกาศห้องสอบและสถานที่สอบ ]
1. ตรวจสอบจากในระบบรับสมัครสอบ (ตามรายละเอียดด้านบน)
2. ประกาศผังสอบ CUBEST ครั้งที่ 4/2568  
….และ
3.ผู้เข้าสอบสามารถมาตรวจสอบรายชื่อ เลขที่สอบ และสถานที่สอบได้อีกครั้งในเช้าวันสอบ
ที่บริเวณใต้อาคารไชยยศสมบัติ 2 ชั้นล่าง ฝั่งทิศตะวันออก (สนามฝั่งตึกไชยยศสมบัติ 1-2-3 )

 

การตรวจสอบคะแนน – คะแนนจะออกหลังจากที่สอบแล้วประมาณ 3 วัน ผู้เข้าสอบสามารถเข้ามาตรวจสอบในระบบ จากเมนู “ประวัติการสมัครและคะแนน” และเลือก “พิมพ์ผลคะแนน”

 

ผลการสอบถือเป็นที่สิ้นสุด

 


***************************************************************
ทางคณะมีการจำกัดพื้นที่ลานจอดรถสำหรับนิสิตและบุคลากรของคณะฯเท่านั้น ผู้เข้าสอบที่นำรถมา สามารถจอดรถได้ที่อาคารจามจุรีสแควร์, อาคารจอดรถคณะรัฐศาสตร์ หรืออาคารจอดรถอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง
***************************************************************

[ แผนที่ห้องภายในพื้นที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
อาคารไชยยศสมบัติ และ อาคารอนุสรณ์50ปี
]

*************************************************************


ระเบียบในการสอบ CU-BEST

  1. เวลาเริ่มสอบ 9.00 น. – 12.00 น.
  2. ผู้ที่มาหลังจาก 9.30 น.จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบ
  3. ผู้เข้าสอบจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง
    เพื่อเป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่คุมสอบ หากไม่ได้นำมาจะ
    ไม่ให้เข้าสอบโดยเด็ดขาด
  4. ในการสอบ ทางศูนย์จัดได้เตรียมเครื่องเขียนสำหรับ
    การสอบไว้ให้ผู้เข้าสอบแล้ว
  5. ห้ามใช้เครื่องคำนวณทุกประเภท และปิดเครื่องมือสื่อสาร
    ทุกชนิด
  6. ต้องแต่งกายสุภาพในการเข้าสอบ
  7. ไม่อนุญาตให้นำกระดาษใดๆเข้าไปยังโต๊ะที่นั่งสอบและ
    ไม่อนุญาตให้นำเนื้อหาส่วนใดของข้อสอบออกจาก
    ห้องสอบ “เด็ดขาด”
  8. หากทุจริตในการสอบ จะโดนตัดสิทธิ์  ในการสอบ
    CU-BEST ตลอดไป

นิสิต YMBA 31/1 คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที Business Simulation Competition

นิสิต YMBA 31/1 คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที Business Simulation Competition ระดับโลก! 
หลักสูตร บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA Young Executive) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอแสดงความยินดีกับนิสิตรุ่นที่ 31/1 ได้แก่
น.ส. กนิษฐา ทีฆพุฒิ (Kanitha Teekaput)
นาย กฤติธี ธีรอำพน (Krittitee Teeraumphon)
น.ส. ณัฏฐณิชา ตัณประเสริฐสุภา (Nattanicha Tanprasertsupha)
ภายใต้การกำกับดูแลโดย อาจารย์ ดร. วิท วรรณไกรโรจน์ และให้คำแนะนำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิตา สุรชัยกุลวัฒนา ที่สามารถคว้ารางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขัน Evolve! 2025 Global Business Simulation Competition จัดโดย SimVenture ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 257 คน จาก 73 ทีม ใน 13 ประเทศทั่วโลก!
ทีม “The Sim” จากจุฬาฯ ได้รับคำชื่นชมในด้าน
การประยุกต์ใช้ “ทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง” (Theory to Practice)
ความคล่องตัวทางกลยุทธ์ (Strategic Agility)
– การตัดสินใจร่วมกันระหว่างหลายฝ่าย (Cross-Functional Decision-Making)
 
 อาจารย์ ดร. วิท วรรณไกรโรจน์ กล่าวว่า
“เราภูมิใจมากในความสามารถของนิสิต ผลลัพธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการนำความรู้จากรายวิชา Crafting Business Strategy มาประยุกต์ใช้ได้อย่างแท้จริงในบริบทระดับโลก”
นาย กฤติธี ธีรอำพน หนึ่งในสมาชิกทีมได้กล่าวว่า
“การแข่งขันครั้งนี้ให้ประสบการณ์เหมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมธุรกิจจริงที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสในการเรียนรู้”
และ น.ส. กนิษฐา ทีฆพุฒิ เสริมว่า
“ในการแข่งขัน Evolve! 2025 กระแสเงินสดคือกุญแจสำคัญ ความสนุกคือเกม และประสบการณ์คือชัยชนะ”
Evolve! 2025 คือการแข่งขันจำลองธุรกิจระดับนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนและนิสิตจากทั่วโลกได้ฝึกบริหารบริษัทในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ซอฟต์แวร์ Evolution ของ SimVenture เพื่อพัฒนาทักษะด้านผู้ประกอบการ การทำงานเป็นทีม การบริหารการเงิน และการวางกลยุทธ์อย่างมืออาชีพ
ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง “ความภาคภูมิใจของหลักสูตร YMBA จุฬาฯ” ที่สะท้อนศักยภาพของนิสิตไทยบนเวทีโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นต่อไป ในการพัฒนาความรู้ ความคิด และความสามารถทางธุรกิจให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล 

CBS GRAND OPEN HOUSE 2025: MASTER MOVES TO WIN CHANGES

CBS GRAND OPEN HOUSE 2025: MASTER MOVES TO WIN CHANGES
.
ขอเชิญร่วมเปิดบ้านคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ
กับ 15 หลักสูตรปริญญาโท–เอกด้านบริหารธุรกิจ ที่จะพาคุณอัปสกิล เติมพลังความรู้ และเปิดมุมมองใหม่จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
.
พบกับ 3 TALK SESSIONS สุดเข้มข้น ที่จะอัปเดตเทรนด์สำคัญในโลกธุรกิจ
พร้อม Highlight พิเศษ! เปิดตัวหลักสูตรใหม่ Chula LGO (Leaders for Global Operations)
หลักสูตรควบระดับปริญญาโทสองปริญญา
.
โอกาสครั้งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการ “เรียนจริง คิดลึก และลงมือเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ”
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2025
เวลา 13.00 – 17.00 น.
Samyan Mitrtown Hall 1 ชั้น 5
ลงทะเบียนฟรีได้แล้วที่ https://tr.ee/Q1eAmB

นิสิต Young Exeucutive เรียนรู้นอกห้องเรียน ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง

“ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน” พระราชดำรัสของของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งที่ยังทรงตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินในโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริเมื่อปี พ.ศ. 2540
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะนิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต นักบริหารระดับต้น รุ่นที่ 31/2 พร้อมทั้งคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จังหวัดชลบุรี ก่อตั้งโดย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อ.ยักษ์ ผู้ที่มีความตั้งใจที่จะขยายศาสตร์ความรู้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโดยใช้ประสบการณ์จากการที่เคยเป็นผู้ติดตามเสด็จฯ นำแนวคิดที่ได้เปลี่ยนมาทำเป็นโครงการจริง ลงมือจริงและเกิดผลสำเร็จ ขยายสู่การเป็นโรงเรียนต้นแบบเพื่อชุมชน และนำสู่วิถีแห่งการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
โดยหนึ่งในพระราชดำรัสของพระองค์ท่านก็คือเรื่องของการ “ยิ่งให้ ยิ่งได้” ขาดทุนเป็นกำไร ส่วนที่เราขาดทุนก็คือการที่เราเสียสละทุ่มเทเพื่อให้ชุมชน และสิ่งที่ชุมชนได้รับนั้น นั่นแหละคือกำไร ถ้ายิ่งเสียสละ ก็ยิ่งมั่นคง ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่ต่างกับพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
สำหรับกิจกรรมในช่วงเช้า คณะนิสิตได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการถวายอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นจึงเข้าฟังบรรยายจากคุณศลิษา ศัลยกำธร ผู้อำนวยการผู้อำนวยการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เกี่ยวกับที่มาของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติแห่งนี้ และได้เรียนรู้ตัวอย่างของการปลูกพืชพันธุ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ ได้เข้าชมพื้นที่ตัวอย่างทั้งป่าที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ แหล่งน้ำธรรมชาติ ทุ่งนา และสวนสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการดำรงชีพ
ในช่วงบ่าย นิสิตได้เข้าร่วม Workshop การทำน้ำยาทำคามสะอาดเอนกประสงค์ และน้ำยาบ้วนปากออร์แกนิค ที่สามารถผลิตได้เองโดยใช้วัตถุจากธรรมชาติที่มี เป็นตัวอย่างของผลิตภัณท์ทำมือที่สามารถนำมาต่อยอดสู่การเป็นผลิตภัณท์ชุมชน นำต่อไปจำหน่ายกลายเป็นรายได้ได้อีกทางหนึ่ง
ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากห้องเรียน และเป็นการเรียนรู้จากกรณีศึกษาจริงที่นิสิตสามารถนำมาเป็นตัวอย่างสู่การพัฒนาแนวคิดการเป็นผู้บริหารที่มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืนในอนาคต

Global Business Experience – MBA Executive 40

Global Business Experience – MBA Executive 40
คณะนิสิตโปรแกรม MBA Executive รุ่นที่ 40 เดินทางไปทัศนศึกษาดูงานและเยี่ยมชมสถาบัน  ณ เมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี 
วันแรกใน Düsseldorf เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมสนามกีฬาของทีม Fortuna Düsseldorf! 
นิสิตได้สัมผัสเบื้องหลังการดำเนินงานของสนามกีฬาระดับชาติของเยอรมันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่สนามฟุตบอลไปจนถึงห้องแถลงข่าว นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางแห่งการเรียนรู้ การสร้างเครือข่าย และการเปิดรับประสบการณ์ระดับโลก!​​​​​​​​​​​​​​​​
Day 1 in Düsseldorf kicked off with an exciting Stadium Tour at Fortuna Düsseldorf! 
From the pitch to the press room, our students explored how a leading sports organization in Germany operates behind the scenes.
A great start to our journey of learning, networking, and global exposure!

วันที่ 2 ช่วงเช้า ที่ ERGO Group เมือง Düsseldorf
นิสิต MBA ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Innovation Strategy และ Digitalization ของ ERGO บริษัทประกันชั้นนำของประเทศเยอรมัน บนเส้นทางสู่การเป็น บริษัทดิจิทัลเต็มรูปแบบภายในปี 2025 โดยเทคโนโลยีอย่าง AI หุ่นยนต์ ระบบเสียง Process Mining และ Metaverse กำลังเปลี่ยนแปลงกระบวนการประกันภัย การฝึกอบรม และช่องทางบริการลูกค้าในอนาคต
“ถ้าวัดไม่ได้ ก็ปรับปรุงไม่ได้”
 ความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมและความรู้สึกเป็นเจ้าของของทีม เป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรมที่ยั่งยืน
นวัตกรรมที่มุ่งเน้นลูกค้า เช่น AirDoctor และ CamCom ช่วยยกระดับความสะดวกและประสิทธิภาพในการเคลมประกัน


วันที่ 2 ช่วงบ่าย ที่มหาวิทยาลัย Heinrich Heine University Düsseldorf (HHU)
นิสิตได้เข้าร่วมการบรรยายโดย Prof. Andreas Engelen ในหัวข้อ Platform Management และ Germany’s Hidden Champions ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจเยอรมัน
แพลตฟอร์มเป็นโมเดลธุรกิจดิจิทัลที่ช่วยให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วและเกิดเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ใช้กับผู้ให้บริการ
บริษัท Hidden Champions ประสบความสำเร็จด้วย กลยุทธ์เฉพาะทาง นวัตกรรม ความเป็นผู้นำ และการขยายสู่ตลาดโลก สะท้อนแนวคิด “คิดระดับโลก แต่ลงมือในท้องถิ่น”
Day 2 Morning at ERGO Group, Düsseldorf
Our MBA students explored ERGO’s digitalization and innovation strategy on its path to becoming a digital-first company by 2025. ERGO is a leading insurance company in Germany. Technologies like AI, robotics, voice, process mining, and the metaverse are transforming insurance operations and customer channels.
“If you can’t measure it, you can’t improve it.”
Cross-cultural understanding and team ownership drive sustainable innovation.
Customer-focused tools like AirDoctor and CamCom enhance service convenience.
Day 2 Afternoon at Heinrich Heine University Düsseldorf (HHU)
We joined Prof. Andreas Engelen for lectures on Platform Management and Germany’s Hidden Champions — the backbone of the nation’s economy.
Platforms enable scalability, network effects, and new digital business models.
Hidden Champions thrive through niche focus, innovation, leadership, and global reach, embodying “Act local, think global.”


วันที่ 3 ช่วงเช้าที่ Zwilling J.A. Henckels เมือง Solingen
นิสิต MBA ได้เยี่ยมชม Zwilling แบรนด์เยอรมันระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านมีดคุณภาพสูง ระหว่างการทัวร์โรงงาน นิสิตได้เห็นกระบวนการผลิตที่โดดเด่นสามารถผลิตมีดได้มากถึง 15,000 เล่มต่อวัน ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงและเทคโนโลยีวิศวกรรมที่มีความแม่นยำ ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงผลิตภัณฑ์ ทุกขั้นตอนได้ผสานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เครื่องจักร และระบบสารสนเทศ เพื่อสร้างมีดที่มี ความคม ความแข็ง ความยืดหยุ่น และความทนต่อการกัดกร่อน อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ศิลปะแห่งการผลิตและนวัตกรรมของ Zwilling ที่สืบทอดต่อเนื่องมาหลายศตวรรษ 
ช่วงบ่ายดูงานที่ Thyssenkrupp AG เมือง Duisburg
ในช่วงบ่ายนิสิตเยี่ยมชมโรงงานผลิตเหล็กกล้าของบริษัท Thyssenkrupp AG ณ เมือง Duisburg ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยและถือเป็นบริษัทผลิตเหล็กกล้าอันดับหนึ่งของประเทศเยอรมนี นอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญอย่างมากกับคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังใส่ใจในเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นโรงงานผลิตเหล็กกล้า Net Zero ให้ได้ภายในปี 2045 ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมหนักที่มักมีการปล่อย Carbon เป็นปริมาณมาก แต่การเดินทางสู่ Net Zero ของ Thyssenkrupp ได้เริ่มขึ้นแล้ว และคณะนิสิตได้รับแรงบันดาลใจที่จะนำแนวคิดต่างๆ ในการลด Carbon Footprint ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนในอนาคต
Global Business Experience – MBA Executive 40
Day 3 Morning at Zwilling J.A. Henckels, Solingen
Our MBA students visited Zwilling, a world-renowned German brand known for knives. During the factory tour, they witnessed how the company achieves operational excellence, producing up to 15,000 knives per day through advanced automation and precision engineering. From raw materials to finished products, every step integrates robotics, machinery, and information systems to ensure superior sharpness, hardness, flexibility, and corrosion resistance — reflecting Zwilling’s centuries-long craftsmanship and innovation. 
Day 3 afternoon at Thyssenkrupp AG, Duisburg
In the afternoon, the MBA students visited the Thyssenkrupp AG steel production plant in Duisburg. This facility utilizes state-of-the-art manufacturing technology and is recognized as Germany’s number one steel producer. Beyond prioritizing product quality, the company also places significant emphasis on a safe working environment and environmental friendliness. Thyssenkrupp has set the ambitious goal of becoming a Net Zero steel producer by 2045. This presents a major challenge for a heavy industry business that typically generates large amounts of carbon emissions. However, Thyssenkrupp’s journey toward Net Zero has already begun, and the visiting students were inspired to adapt the concepts and strategies for reducing the carbon footprint to their own businesses in the future
วันที่ 4 วันสุดท้ายของการดูงานที่ Weingut Lanius-Knab, Oberwesel 
คณะนิสิต MBA ได้เยี่ยมชม Weingut Lanius-Knab ไวน์เนอรี่ชื่อดังที่เชี่ยวชาญด้านไวน์ Riesling และเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ภาคภูมิใจของ VDP (สมาคมไร่ไวน์ Prädikat แห่งประเทศเยอรมัน) มานานกว่า 30 ปี การเยี่ยมชมครั้งนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไวน์ของเยอรมัน การปลูกองุ่นอย่างยั่งยืน และกลยุทธ์การส่งออกระดับโลก ตามด้วยการเยี่ยมชมโรงงานผลิตและกิจกรรมชิมไวน์
การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการเรียนรู้ทางธุรกิจและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในใจกลางแหล่งผลิตไวน์สำคัญของประเทศเยอรมัน ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้อย่างน่าประทับใจ! ​​​​​​​​​​​​​​​​
Day 4 final day of the study trip at Weingut Lanius-Knab, Oberwesel
Our MBA students visited Weingut Lanius-Knab, a renowned winery specializing in Riesling wines and a proud member of the VDP (Association of German Prädikat Wine Estates) for over 30 years. The visit offered valuable insights into Germany’s wine industry, sustainable viticulture, and global export strategies, followed by a guided tour and tasting session.
A perfect mix of business learning and cultural experience in the heart of Germany’s wine region concludes our memorable business trip!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save