hollywood casino pa online
online casino in the usa
free online poker games no download
3 card poker online casino
casino card games online
Pop Slots Fired Up Bonus 100m Bet Got Pickedepic Insane Win
The Perfect Blackjack Dealer Blackjack Casino Realbrettski
Little Blue Gummies For Ed Exploring Their Impact On Sexual Performance
Cbd Gummies For Penis Enlargement Benefits And Risks
Penis Enlargement Surgery How Does Penis Enlargement Surgery Work Moorgate Andrology
Ed Pills Over The Counter Top Choices And Availability
21 poker
777 jackpot casino
slots apps for real money
Jelly Roll Is UNRECOGNIZABLE After 200 Lb Weight Loss
Skip to main content

นิสิต Young Exeucutive เรียนรู้นอกห้องเรียน ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง

“ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน” พระราชดำรัสของของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งที่ยังทรงตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินในโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริเมื่อปี พ.ศ. 2540
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะนิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต นักบริหารระดับต้น รุ่นที่ 31/2 พร้อมทั้งคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จังหวัดชลบุรี ก่อตั้งโดย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อ.ยักษ์ ผู้ที่มีความตั้งใจที่จะขยายศาสตร์ความรู้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโดยใช้ประสบการณ์จากการที่เคยเป็นผู้ติดตามเสด็จฯ นำแนวคิดที่ได้เปลี่ยนมาทำเป็นโครงการจริง ลงมือจริงและเกิดผลสำเร็จ ขยายสู่การเป็นโรงเรียนต้นแบบเพื่อชุมชน และนำสู่วิถีแห่งการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
โดยหนึ่งในพระราชดำรัสของพระองค์ท่านก็คือเรื่องของการ “ยิ่งให้ ยิ่งได้” ขาดทุนเป็นกำไร ส่วนที่เราขาดทุนก็คือการที่เราเสียสละทุ่มเทเพื่อให้ชุมชน และสิ่งที่ชุมชนได้รับนั้น นั่นแหละคือกำไร ถ้ายิ่งเสียสละ ก็ยิ่งมั่นคง ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่ต่างกับพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
สำหรับกิจกรรมในช่วงเช้า คณะนิสิตได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการถวายอาลัยต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นจึงเข้าฟังบรรยายจากคุณศลิษา ศัลยกำธร ผู้อำนวยการผู้อำนวยการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เกี่ยวกับที่มาของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติแห่งนี้ และได้เรียนรู้ตัวอย่างของการปลูกพืชพันธุ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ ได้เข้าชมพื้นที่ตัวอย่างทั้งป่าที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ แหล่งน้ำธรรมชาติ ทุ่งนา และสวนสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการดำรงชีพ
ในช่วงบ่าย นิสิตได้เข้าร่วม Workshop การทำน้ำยาทำคามสะอาดเอนกประสงค์ และน้ำยาบ้วนปากออร์แกนิค ที่สามารถผลิตได้เองโดยใช้วัตถุจากธรรมชาติที่มี เป็นตัวอย่างของผลิตภัณท์ทำมือที่สามารถนำมาต่อยอดสู่การเป็นผลิตภัณท์ชุมชน นำต่อไปจำหน่ายกลายเป็นรายได้ได้อีกทางหนึ่ง
ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากห้องเรียน และเป็นการเรียนรู้จากกรณีศึกษาจริงที่นิสิตสามารถนำมาเป็นตัวอย่างสู่การพัฒนาแนวคิดการเป็นผู้บริหารที่มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืนในอนาคต

Global Business Experience – MBA Executive 40

Global Business Experience – MBA Executive 40
คณะนิสิตโปรแกรม MBA Executive รุ่นที่ 40 เดินทางไปทัศนศึกษาดูงานและเยี่ยมชมสถาบัน  ณ เมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี 
วันแรกใน Düsseldorf เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมสนามกีฬาของทีม Fortuna Düsseldorf! 
นิสิตได้สัมผัสเบื้องหลังการดำเนินงานของสนามกีฬาระดับชาติของเยอรมันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่สนามฟุตบอลไปจนถึงห้องแถลงข่าว นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางแห่งการเรียนรู้ การสร้างเครือข่าย และการเปิดรับประสบการณ์ระดับโลก!​​​​​​​​​​​​​​​​
Day 1 in Düsseldorf kicked off with an exciting Stadium Tour at Fortuna Düsseldorf! 
From the pitch to the press room, our students explored how a leading sports organization in Germany operates behind the scenes.
A great start to our journey of learning, networking, and global exposure!

วันที่ 2 ช่วงเช้า ที่ ERGO Group เมือง Düsseldorf
นิสิต MBA ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Innovation Strategy และ Digitalization ของ ERGO บริษัทประกันชั้นนำของประเทศเยอรมัน บนเส้นทางสู่การเป็น บริษัทดิจิทัลเต็มรูปแบบภายในปี 2025 โดยเทคโนโลยีอย่าง AI หุ่นยนต์ ระบบเสียง Process Mining และ Metaverse กำลังเปลี่ยนแปลงกระบวนการประกันภัย การฝึกอบรม และช่องทางบริการลูกค้าในอนาคต
“ถ้าวัดไม่ได้ ก็ปรับปรุงไม่ได้”
 ความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมและความรู้สึกเป็นเจ้าของของทีม เป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรมที่ยั่งยืน
นวัตกรรมที่มุ่งเน้นลูกค้า เช่น AirDoctor และ CamCom ช่วยยกระดับความสะดวกและประสิทธิภาพในการเคลมประกัน


วันที่ 2 ช่วงบ่าย ที่มหาวิทยาลัย Heinrich Heine University Düsseldorf (HHU)
นิสิตได้เข้าร่วมการบรรยายโดย Prof. Andreas Engelen ในหัวข้อ Platform Management และ Germany’s Hidden Champions ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจเยอรมัน
แพลตฟอร์มเป็นโมเดลธุรกิจดิจิทัลที่ช่วยให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วและเกิดเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ใช้กับผู้ให้บริการ
บริษัท Hidden Champions ประสบความสำเร็จด้วย กลยุทธ์เฉพาะทาง นวัตกรรม ความเป็นผู้นำ และการขยายสู่ตลาดโลก สะท้อนแนวคิด “คิดระดับโลก แต่ลงมือในท้องถิ่น”
Day 2 Morning at ERGO Group, Düsseldorf
Our MBA students explored ERGO’s digitalization and innovation strategy on its path to becoming a digital-first company by 2025. ERGO is a leading insurance company in Germany. Technologies like AI, robotics, voice, process mining, and the metaverse are transforming insurance operations and customer channels.
“If you can’t measure it, you can’t improve it.”
Cross-cultural understanding and team ownership drive sustainable innovation.
Customer-focused tools like AirDoctor and CamCom enhance service convenience.
Day 2 Afternoon at Heinrich Heine University Düsseldorf (HHU)
We joined Prof. Andreas Engelen for lectures on Platform Management and Germany’s Hidden Champions — the backbone of the nation’s economy.
Platforms enable scalability, network effects, and new digital business models.
Hidden Champions thrive through niche focus, innovation, leadership, and global reach, embodying “Act local, think global.”


วันที่ 3 ช่วงเช้าที่ Zwilling J.A. Henckels เมือง Solingen
นิสิต MBA ได้เยี่ยมชม Zwilling แบรนด์เยอรมันระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านมีดคุณภาพสูง ระหว่างการทัวร์โรงงาน นิสิตได้เห็นกระบวนการผลิตที่โดดเด่นสามารถผลิตมีดได้มากถึง 15,000 เล่มต่อวัน ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงและเทคโนโลยีวิศวกรรมที่มีความแม่นยำ ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงผลิตภัณฑ์ ทุกขั้นตอนได้ผสานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เครื่องจักร และระบบสารสนเทศ เพื่อสร้างมีดที่มี ความคม ความแข็ง ความยืดหยุ่น และความทนต่อการกัดกร่อน อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ศิลปะแห่งการผลิตและนวัตกรรมของ Zwilling ที่สืบทอดต่อเนื่องมาหลายศตวรรษ 
ช่วงบ่ายดูงานที่ Thyssenkrupp AG เมือง Duisburg
ในช่วงบ่ายนิสิตเยี่ยมชมโรงงานผลิตเหล็กกล้าของบริษัท Thyssenkrupp AG ณ เมือง Duisburg ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยและถือเป็นบริษัทผลิตเหล็กกล้าอันดับหนึ่งของประเทศเยอรมนี นอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญอย่างมากกับคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังใส่ใจในเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นโรงงานผลิตเหล็กกล้า Net Zero ให้ได้ภายในปี 2045 ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมหนักที่มักมีการปล่อย Carbon เป็นปริมาณมาก แต่การเดินทางสู่ Net Zero ของ Thyssenkrupp ได้เริ่มขึ้นแล้ว และคณะนิสิตได้รับแรงบันดาลใจที่จะนำแนวคิดต่างๆ ในการลด Carbon Footprint ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนในอนาคต
Global Business Experience – MBA Executive 40
Day 3 Morning at Zwilling J.A. Henckels, Solingen
Our MBA students visited Zwilling, a world-renowned German brand known for knives. During the factory tour, they witnessed how the company achieves operational excellence, producing up to 15,000 knives per day through advanced automation and precision engineering. From raw materials to finished products, every step integrates robotics, machinery, and information systems to ensure superior sharpness, hardness, flexibility, and corrosion resistance — reflecting Zwilling’s centuries-long craftsmanship and innovation. 
Day 3 afternoon at Thyssenkrupp AG, Duisburg
In the afternoon, the MBA students visited the Thyssenkrupp AG steel production plant in Duisburg. This facility utilizes state-of-the-art manufacturing technology and is recognized as Germany’s number one steel producer. Beyond prioritizing product quality, the company also places significant emphasis on a safe working environment and environmental friendliness. Thyssenkrupp has set the ambitious goal of becoming a Net Zero steel producer by 2045. This presents a major challenge for a heavy industry business that typically generates large amounts of carbon emissions. However, Thyssenkrupp’s journey toward Net Zero has already begun, and the visiting students were inspired to adapt the concepts and strategies for reducing the carbon footprint to their own businesses in the future
วันที่ 4 วันสุดท้ายของการดูงานที่ Weingut Lanius-Knab, Oberwesel 
คณะนิสิต MBA ได้เยี่ยมชม Weingut Lanius-Knab ไวน์เนอรี่ชื่อดังที่เชี่ยวชาญด้านไวน์ Riesling และเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ภาคภูมิใจของ VDP (สมาคมไร่ไวน์ Prädikat แห่งประเทศเยอรมัน) มานานกว่า 30 ปี การเยี่ยมชมครั้งนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไวน์ของเยอรมัน การปลูกองุ่นอย่างยั่งยืน และกลยุทธ์การส่งออกระดับโลก ตามด้วยการเยี่ยมชมโรงงานผลิตและกิจกรรมชิมไวน์
การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการเรียนรู้ทางธุรกิจและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในใจกลางแหล่งผลิตไวน์สำคัญของประเทศเยอรมัน ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้อย่างน่าประทับใจ! ​​​​​​​​​​​​​​​​
Day 4 final day of the study trip at Weingut Lanius-Knab, Oberwesel
Our MBA students visited Weingut Lanius-Knab, a renowned winery specializing in Riesling wines and a proud member of the VDP (Association of German Prädikat Wine Estates) for over 30 years. The visit offered valuable insights into Germany’s wine industry, sustainable viticulture, and global export strategies, followed by a guided tour and tasting session.
A perfect mix of business learning and cultural experience in the heart of Germany’s wine region concludes our memorable business trip!

หลักสูตร MBA Chula จัดกิจกรรม ปฐมนิเทศนิสิตใหม่ สำหรับนิสิตหลักสูตรที่เข้าในภาคปลาย ปีการศึกษา 2568

หลักสูตร MBA Chula จัดกิจกรรม ปฐมนิเทศนิสิตใหม่ สำหรับนิสิตหลักสูตร
-MBA Executive รุ่นที่ 41 ในระหว่างวันที่ 26-28 กันยายน 2568 
และ
– MBA Young Executive รุ่นที่ 32/2 ในระหว่างวันที่ 27-28 กันยายน 2568
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมด้านวิชาการและการใช้ชีวิตร่วมกันตลอดระยะเวลา 2 ปีของการเรียนในหลักสูตร
วันแรกของกิจกรรมในช่วงเช้า รศ.ดร. ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กล่าวต้อนรับนิสิตใหม่ ก่อนจะออกเดินทางไปทำกิจกรรมปฐมนิเทศ
ในช่วงบ่าย คณาจารย์และประธานหลักสูตรฯ กล่าวต้อนรับและแนะนำหลักสูตรให้แก่นิสิต และเริ่มกิจกรรมละลายพฤติกรรมให้นิสิตได้รู้จัก และสนิทสนมกันมากขึ้น
กิจกรรมในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยความร่วมมือจากนิสิตทุกท่าน ทางหลักสูตรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประสบการณ์จากกิจกรรมนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของมิตรภาพและความสำเร็จตลอดการเรียนในหลักสูตร MBA จุฬาฯ

MBA CHULA ต้อนรับคณะนักศึกษาและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย Heinrich Heine Universität Düsseldorf (HHU) ประเทศเยอรมนี

หลักสูตร MBA Chula จัดกิจกรรมต้อนรับการมาเยือนของคณะนักศึกษาและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย Heinrich Heine Universität Düsseldorf (HHU) ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568
กิจกรรมวันแรก ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กล่าวต้อนรับและแนะนำคณะ จากนั้นรับฟังการบรรยายพิเศษในหัวข้อ
• Thai Economy and Sustainability โดย รศ.ดร.คณิสร์ แสงโชติ
• Digital Transformation in Thailand: Opportunities and Challenges โดย อ.ดร.ภัทริน ตั้งวรากร
หลักสูตร MBA Chula จัดกิจกรรมต้อนรับการมาเยือนของคณะนักศึกษาและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย Heinrich Heine Universität Düsseldorf (HHU) ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568
กิจกรรมวันที่สอง คณะจาก HHU ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ บริษัท ซีพีแรม จำกัด (บ่อเงิน) จังหวัดปทุมธานี โดยได้รับเกียรติจาก คุณทัศดาพร พึ่งจิตต์ตน และทีมงานซีพีแรม ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ถ่ายทอดความรู้ และพาชมกระบวนการผลิตสินค้าในเครือซีพีแรมอย่างใกล้ชิด สร้างประสบการณ์และให้นักศึกษาเห็นมุมมองด้านธุรกิจอาหารของไทย
หลักสูตร MBA Chula ขอขอบพระคุณบริษัทซีพีแรม จำกัด ที่ให้เกียรติและสละเวลาในการต้อนรับและแบ่งปันความรู้แก่คณะนักศึกษาและคณาจารย์จาก HHU มา ณ โอกาสนี้
หลักสูตร MBA Chula จัดกิจกรรมต้อนรับการมาเยือนของคณะนักศึกษาและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัย Heinrich Heine Universität Düsseldorf (HHU) ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568
วันสุดท้ายของการจัดกิจกรรม ช่วงเช้า นักศึกษาจาก HHU ได้เข้าฟังการบรรยายในหัวข้อ “Sufficiency for Sustainability” โดย รศ.ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ และ รศ.ดร.ธีรนุช พูศักดิ์ศรีกิจ
ช่วงบ่าย เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ร้านอาหารตามมี (Tham me) บรรทัดทอง พร้อมฟังบรรยายพิเศษ โดยคุณพิเชษฐ โตนิติวงศ์ ผู้จัดการไปทั่ว บริษัทธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
หลักสูตร MBA Chula ขอขอบพระคุณ คุณพิเชษฐ โตนิติวงศ์ ที่ให้เกียรติและสละเวลาในการต้อนรับและแบ่งปันความรู้แก่คณะนักศึกษาและคณาจารย์ มา ณ โอกาสนี้
ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นิสิตหลักสูตร Executive MBA Chula จะเดินทางไปศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ มหาวิทยาลัย HHU ประเทศเยอรมนี

นิสิต MBA จุฬาฯ ศึกษาดูงานธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ณ SCGP

นิสิต MBA จุฬาฯ ศึกษาดูงานธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ณ SCGP
เมื่อวันที่ 28–29 มิถุนายนที่ผ่านมา นิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (SCGP) โรงงานบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้รายวิชา จริยธรรมธุรกิจและการสร้างคุณค่าร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่านประสบการณ์ตรง
ภายในโรงงาน นิสิตได้รับฟังภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SCGP พร้อมทั้งเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังได้รับฟังกระบวนการผลิตกระดาษด้วยเครื่องจักร PM16 รวมถึงเข้าเยี่ยมชมระบบ Thermal Recycling Plant ที่นำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า
ภาคบ่าย นิสิตได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมกิจกรรมด้านชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเรียนรู้ผ่าน 4 ฐาน ได้แก่ บ้านต้นแบบใช้ซ้ำ บ้านต้นแบบการแยกขยะรีไซเคิล นวัตกรรมชุมชน และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพจักสานเปเปอร์แบนด์ รวมถึงร้านค้าชุมชน ปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมพื้นที่สีเขียวป่านิเวศ (Eco Forest) และการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ที่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสร้างคุณค่าให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
กิจกรรมครั้งนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับนิสิต MBA ในการเรียนรู้และเข้าใจถึงบทบาทของธุรกิจในการสร้างความยั่งยืน พร้อมต่อยอดแนวคิดเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคต
On June 28–29, MBA students from Chulalongkorn University visited Siam Kraft Industry Co., Ltd. (SCGP) in Ban Pong, Ratchaburi Province.
This trip was organized as part of the course “Business Ethics and Shared Value Creation,” with the goal of providing students with practical insights into sustainable business practices. During their visit to the factory, students attended a lecture on SCGP’s business operations and learned about Environmental, Social, and Governance (ESG) management approaches, which are essential for sustainable development. They also observed the paper production process using the PM16 machine and visited the Thermal Recycling Plant, which efficiently utilizes heat generated during waste disposal to produce energy, showcasing effective resource management.
In the afternoon, students explored various sustainable initiatives within the local community, including a prototype house for reuse, a prototype house for recycling, local innovations, and a career promotion activity for paper band weaving artisans, as well as community shops. The trip concluded with a visit to the Eco Forest and a plant genetic conservation area, further illustrating the importance of creating value for both the environment and the local community.
This study trip aimed to provide MBA students with new perspectives on the role of business in sustainability and creating shared values, also inspiring ideas for future applications in their business.
 

นิสิตในโครงการ GBT ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมไทยณ จังหวัดสมุทรปราการ

MBA Chula นำนิสิตในโครงการ GBT ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณและเมืองโบราณ ณ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โครงการ Global Business Track (GBT) เป็นหนึ่งในโครงการพิเศษของหลักสูตร MBA จุฬาฯ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนิสิตให้มีมุมมองทางธุรกิจในระดับนานาชาติ โดยเป็นโครงการที่ MBA Chula ร่วมมือกับ University of Victoria, Canada และ University of Glasgow, Scotland ซึ่งนิสิตได้เดินทางไปเรียนโมดูลแรก ณ ประเทศแคนาดา เป็นเวลา 3 เดือน และประเทศสกอตแลนด์ในโมดูล 2 เป็นเวลา 3เดือน ก่อนจะมาเรียนที่MBA Chula ในโมดูลสุดท้ายนี้
ในช่วงเช้า คณะฯ ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรมไทย ภายใต้สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของช้างเอราวัณขนาดใหญ่ ความสูงกว่า 40 เมตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนฐานกลมอันวิจิตรงดงาม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและความศรัทธาของคนไทยในเรื่องจักรวาลวิทยา และการเชื่อมโยงระหว่างศิลปะไทยกับพุทธศาสนา
ในช่วงบ่าย คณะฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมเมืองโบราณ แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่จำลองสถาปัตยกรรมสำคัญจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวัด พระราชวัง และหมู่บ้านพื้นถิ่น ทำให้นิสิตได้เห็นถึงความหลากหลายและความงดงามของวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด
On June 23, MBA Chula organized a cultural trip for Global Business Track (GBT) students to the Erawan Museum and Ancient City in Samut Prakan Province.
The GBT Program is a special initiative at MBA Chula that aims to develop students’ potential for an international business perspective. This program involves collaboration between MBA Chula, the University of Victoria in Canada, and the University of Glasgow in Scotland. Students spend three months studying in Canada for the first module, followed by another three months in Scotland for the second module, before completing their studies at MBA Chula for the final module.
In the morning, the students visited the Erawan Museum, which showcases art and craftsmanship related to Thai religion and culture. The Erawan elephant museum itself also reflects the beliefs and faith of the Thai people, which is inspired from the combination of cosmology, Thai art, and Buddhism.
In the afternoon, the students explored the Ancient City, a location designed to educate visitors about Thai history and culture. The site replicates significant architecture from various regions of Thailand, including temples, palaces, and traditional villages, allowing students to appreciate the diversity and beauty of Thai culture up close.

MBA Young Exec Global Business Trip at Hiroshima

Day 1 Global Business Experience 🌏 หลักสูตร Y-Ex MBA31/1 วันที่ 2 มิถุนายน 2568 ณ Hiroshima Peace Memorial Park and Musuem 🕊️
▫️ถอดบทเรียนจากบาดแผลทางประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มจากการเดินชมจุดสำคัญต่างๆรอบ Hiroshima Peace Memorial Park ซึ่งนำโดยอาสาสมัครชาวญี่ปุ่นที่ตั้งใจให้ข้อมูลอย่างลึกทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นในการฟื้นฟูเมืองฮิโรชิมาหลังเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณู รวมถึงประสบการณ์ทางอ้อมที่คนญี่ปุ่นและอาสาสมัครได้พบเจอมา🇯🇵
▫️ได้เข้าชมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิมา (Hiroshima Peace Memorial Museum) ซึ่งจัดแสดงภาพ วิดิโอและสิ่งของของเมือง Hiroshima ตั้งแต่ก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณู ความเจ็บปวด บาดแผล ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเมืองฮิโรชิมา และการดำเนินชีวิตของคนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหวัง และความเข้มแข็งของมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่ความมุ่งหวังในการสร้างสันติภาพให้แก่ทุกคนบนโลก 🕊️ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
▫️การศึกษาดูงานครั้งนี้ไม่เพียงแค่เปิดมุมมองทางวิชาการ แต่ยังเติมเต็มจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง และได้เรียนรู้ว่าสงครามไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับฝ่ายใด ทิ้งไว้แต่เพียงความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้
▫️ขอบคุณ Hiroshima Peace Memorial Park, Hiroshima Peace Memorial Musuem และอาสาสมัครทุกท่านที่ให้การต้อนรับและถ่ายทอดเรื่องราวด้วยหัวใจ 🤍
Day 2 Global Business Experience 🌏 หลักสูตร Y-Ex MBA31/1 วันที่ 3 มิถุนายน 2568 (Morning Session) ณ บริษัท Otafuku Sauce
คณะนิสิต หลักสูตร Y-Ex MBA รุ่น 31/1 ได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Wood Egg ของบริษัท Otafuku Sauce ณ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น 🇯🇵วันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเรียนรู้แนวคิดการบริหารธุรกิจญี่ปุ่นอายุกว่า 100 ปี ซึ่งเติบโตจากรากฐานท้องถิ่นและปรับตัวต่อเนื่องตามบริบทสังคมและเศรษฐกิจ
นิสิตได้ศึกษาพัฒนาการของแบรนด์ พร้อมทำความเข้าใจบทบาทของเมนู Okonomiyaki ในฐานะวัฒนธรรมอาหารที่เชื่อมโยงผู้คนในสังคม ผ่านการจำลองร้านค้าและวิถีชีวิตชาวฮิโรชิมาในอดีต
จากนั้น นิสิตได้รับฟังการบรรยายจากคุณ Yasutaka Oouchi ตำแหน่ง Executive Officer(Deputy of General Manager of the Co-Creation Division) ถึงกลยุทธ์การตลาดภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมการกินผ่าน Word of Mouth การขยายฐานผู้บริโภคไปยังภูมิภาคที่ไม่คุ้นเคยกับเมนูนี้ และแนวคิดการจัดตั้ง “Okonomiyaki Team” เพื่อสื่อสารคุณค่าทางวัฒนธรรมของอาหารสู่สังคมและองค์กร
ต่อมาได้นำเสนอแนวทางการขยายตลาดสู่ประเทศไทย 🇹🇭พร้อมอธิบายข้อจำกัดและกลยุทธ์การปรับตัวให้สอดคล้องกับผู้บริโภคไทย ทั้งในด้านการสื่อสารแบรนด์และช่องทางจัดจำหน่าย
ในช่วงท้าย นิสิตได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านกลยุทธ์การตลาด พร้อมซักถามถึงแนวคิดธุรกิจที่สืบทอดจากผู้ก่อตั้ง ตลอดจนความท้าทายทางสังคมของญี่ปุ่นในปัจจุบัน อาทิ สังคมสูงวัยและการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่งผลต่อทั้งการผลิตและการวางแผนธุรกิจในอนาคต
การเยี่ยมชมครั้งนี้เปิดมุมมองสู่การทำธุรกิจอย่างมีเป้าหมายที่แท้จริง ไม่เพียงตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังมุ่งสร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม ส่งต่อความสุขผ่านอาหาร และสร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในระยะยาว
นิสิต MBA ได้มีโอกาสเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัท Mazda ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น 🇯🇵 ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมามากกว่า 100 ปี โดยมี Miku-san เป็นผู้บรรยายในการเข้าชมในวันนี้
บริษัท Mazda ก่อตั้งโดยคุณ Jujiro Matsuda ในปี 1920 เดิมใช้ชื่อว่าบริษัท Toyo Cork Kogyo พัฒนาจากโรงงานผลิตไม้ Cork ก่อนจะเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการเปิดตัว “Mazda-Go” รถสามล้อบรรทุกเครื่องยนต์รุ่นแรกในปี 1931 🛻 ซึ่งในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงรถยนต์ 4 ที่นั่งรุ่นแรกของ Mazda ในปี 1960 รวมถึงมีการแสดงนวัตกรรมเครื่องยนต์แบบ Rotary ของ Mazda ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก ด้วยการออกแบบที่แตกต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไปและ นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังแสดงการผสมผสานเทคโนโลยีและปรัชญาการออกแบบผ่านแนวคิด “Jinba Ittai” (ผู้ขับและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน) และ “KODO – Soul of Motion” ที่ผสมผสานและถ่ายทอดความรู้สึกของการเคลื่อนไหวลงบนพื้นผิวของรถยนต์ 💡
อีกทั้งยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยี “SKYACTIV” 🩵 ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่ น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน แต่ไม่ลดสมรรถนะ โดยในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดโซนแสดงรถยนต์รุ่นปัจจุบันพร้อมทั้งอธิบายการออกแบบภายในและเทคโนโลยีต่าง ๆ นอกจากนี้คณะนิสิตยังมีโอกาสได้รับชมส่วนหนึ่งของสายการผลิตรถยนต์ Mazda ของจริงภายในโรงงานอีกด้วย ✨
ในส่วนท้ายของพิพิธภัณฑ์ Mazda ยังมีการจัดแสดงการออกแบบรถยนต์ต้นแบบ (Prototype) สุดล้ำที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Mazda ในโลกอนาคต อย่างรถยนต์ต้นแบบ Mazda Vision Coupe ที่รวมเอาความงามแบบญี่ปุ่นผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อรองรับสังคมแห่งการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต 🚗🌱
✏️ บทเรียนสำคัญที่คณะนิสิตได้รับในวันนี้คือ จุดเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ขององค์กรเกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ซึ่งสะท้อนผ่านวัฒนธรรมขององค์กรที่นอกจากจะต้องแข็งแกร่งแล้ว องค์กรยังต้องคำนึงถึงสังคมโดยรวม โดยมีเป้าหมายที่แน่วแน่เพื่อทำให้บริษัทเติบโตควบคู่ไปพร้อมกันกับการพัฒนาสังคม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัท Mazda เป็น 1 ในบริษัทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมามากกว่า 100 ปี 💫
Day 3 Global Business Experience 🌏 หลักสูตร Y-Ex MBA31/1 วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ณ Prefectural University of Hiroshima
Theme: International Business Management 🇯🇵
นิสิต MBA ได้มีโอกาสเรียนรู้จาก Prof. Dr. Norihiko Suzuki ซึ่งเป็น Chairman ดูแล Hiroshima Prefectural Public University
💬 Prof. Suzuki ได้ถ่ายทอดถึงกลยุทธ์ของบริษัทญี่ปุ่นในการเข้าตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจสำหรับนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ ดังนี้
•การเคลื่อนไหวของบริษัทข้ามชาติ (Multinational Corporations: MNSs) ที่เชื่อมโยงด้วยเครือข่ายทางธุรกิจ และมีการสื่อสารระหว่างกัน
•การเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดด้านการส่งออก ให้เป็นโอกาสใหม่ในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI)
• การลงทุนกับการศึกษา ซึ่งช่วยให้คนญี่ปุ่นมีความสามารถและพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก รวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่
• การสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของญี่ปุ่นสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Theme: Fools learn from experience, wise man learn from history 🇯🇵
นิสิตได้มีโอกาสเรียนรู้จาก Prof. Dr. Seiichiro Yonekura ซึ่งเป็น Dean ของ Hiroshima Business and Management school
💬 Prof. Yonekura ได้เน้นความสำคัญของการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ผ่าน 3 หัวข้อหลัก ดังนี้
•ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของการศึกษา และกรอบความคิด ที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด
•ความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ในการช่วยสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาธุรกิจ
• ความสำคัญของการมีเพื่อนคู่คิด (Partner) ซึ่งช่วยให้คนญี่ปุ่นสามารถเดินไปข้างหน้าได้ไกลและมั่นคง “If you want to go fast, go alone but if you want to go far, go together”
Day 4 Global Business Experience 🌏 หลักสูตร Y-Ex MBA31 วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ณ Osaka World Expo 2025
คณะนิสิต MBA มีโอกาสได้เข้าร่วมศึกษาดูงานที่ Osaka Expo 2025 ประเทศญี่ปุ่น : โลกอนาคตกำลังถูกออกแบบ และเรากำลังเป็นส่วนหนึ่งของโลกอนาคต
✨ Session ช่วงเช้า ได้รับเกียรติเข้าฟังบรรยายจากผู้อำนวยการจัดงาน Osaka Expo และช่วงบ่ายได้เข้าไปที่ Yumeshima Island ซึ่งเป็นเกาะเทียมที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้จัดงาน Expo โดยเฉพาะ
🎡 ธีมหลักของ Expo คือ “Designing Future Society for Our Lives”
✈️ ภายในงานมีการจัดแสดง Pavilions จากประเทศต่างๆ เราได้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์ แต่คือ “เครื่องมือ” ที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผู้สูงอายุด้วยหุ่นยนต์ AI, เมืองที่ผลิตพลังงานสะอาดด้วยตัวเอง, หรือระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ใช้งานจริงแล้วในบางประเทศ 👏
✅ Highlight ที่ห้ามพลาด 🚀
📌ญี่ปุ่น 🇯🇵 โชว์นวัตกรรมระดับประเทศที่ใช้จริงแล้วในเมืองต่าง ๆ
📌UAE 🇦🇪 พาวิลเลียนธีม “Possible Realities” ที่ผสานเทคโนโลยี + จิตวิญญาณตะวันออกกลาง
📌สหรัฐฯ 🇺🇸 มุ่งเน้น AI, Sustainability และบทบาทของพลเมืองโลก
(และอีกกว่า 150 ประเทศ ที่จะมาแสดงวิสัยทัศน์อนาคตในแบบของตัวเอง)
📌 หลายสิ่งที่เคยอ่านในห้องเรียน MBA — กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ 🥹🥹
📌 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการดูงานครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่เทคโนโลยี แต่คือ “Mindset” สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดไม่ใช่เครื่องจักรล้ำยุค แต่คือ “แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ“
💼✨ การได้มาเห็นโลกอนาคตจริง ๆ แบบนี้ ทำให้เข้าใจคำว่า “Global Perspective” มากขึ้นอีกขั้น แต่เรากำลังฝึกคิดเชิงระบบ ฝึกมองความเชื่อมโยงของธุรกิจกับสังคม สิ่งแวดล้อม และชีวิตมนุษย์
👭 ที่สำคัญที่สุด เราไม่ได้เรียนรู้คนเดียว
เรามีเพื่อนร่วมรุ่นจากหลายอาชีพ หลาย background ที่ช่วยกันต่อยอดความคิด แชร์มุมมอง และสร้างแรงบันดาลใจให้กันตลอดเวลา
🧠 สุดท้ายนี้ อยากฝากไว้ว่า…
หลักสูตร MBA ของ CBS Chula ไม่ได้สอนแค่ให้ทำธุรกิจ แต่ยังสอนให้เรา “เข้าใจโลก” และ “ออกแบบอนาคต” ในแบบของเราได้อีกด้วย

MBA English Program Class : Global Business Experience @Osaka

Our MBA Chula (English Program) students recently embarked on an enriching study trip to Kyoto and Osaka, Japan! This incredible experience was designed to give them firsthand insight into global business trends.
One of the highlights was a special lecture by Prof. Kiyoshi Kobayashi from Kyoto University on “People Centricity in AI-driven Worlds ” – the idea that even as AI advances, humanity remains at the core.
Prof. Kobayashi shared a powerful perspective: AI, specifically tools like ChatGPT, has established a new baseline for all industries and research. The critical task ahead is to find ways to differentiate ourselves beyond what AI can achieve. Beyond the technological insights, the lecture deeply reinforced the vital roles of Social Capital and the Well-being of people in our evolving AI landscape. These aren’t just buzzwords; they are the bedrock for sustainable growth. By fostering “democratic platforms” where everyone has an equal voice, we can significantly strengthen communities and enhance the overall quality of life.
In the afternoon, our journey led us to Mii-dera Temple in Shiga Prefecture, a site designated as one of Japan’s National Treasures. There, the head priest offered a compelling lecture on the profound importance of Buddhism, which has served as a foundational pillar of the country, deeply influencing Japanese culture and way of thinking for centuries.
He spoke of a dual world: the visible world, where people primarily focus on economics and rationality, and an invisible world, equally vital for navigating life. He noted that in our modern era, interest in or belief in religion is waning, a trend observable even in Japan. This means temples like Mii-dera face the considerable task of finding new ways to operate and preserve their rich heritage in an increasingly secular world.
This trip wasn’t just about lectures; it was about inspiring our students to think critically, innovate, and lead with a human-centered approach in an AI-powered world, all while gaining a deeper appreciation for both cutting-edge technology and timeless cultural wisdom.
Day 2: The Spirit of Japanese Management 🇯🇵
Today in Kyoto, we explored two powerful stories that exemplify how Japanese management blends tradition, innovation, and cultural preservation.
🍬 Morning Session: Shogoin Yatsuhashi
We were inspired by Ms. Kanako Suzuka, President of Shogoin Yatsuhashi, a renowned sweet maker established in 1689. She shared how the company stays true to its core philosophy—“Taste is Tradition”—while innovating through Nikiniki, a stylish brand designed for younger consumers. Her vision is to make these sweets a part of everyday life in Kyoto, not just occasional souvenirs.
Ms. Suzuka emphasized that the real challenge for Nikiniki lies in sustaining the brand. This demands ongoing creativity in both product development and presentation, including the release of seasonal products. She relies on word-of-mouth marketing, firmly believing that every product must meet the highest standards before reaching customers.
🏠 Afternoon Visit: Kyo-Machiya Townhouse
In the afternoon, we visited a Kyo-Machiya townhouse on Shinmachi Street, known as “Clear Sky Street” after overhead power lines were removed to preserve the scenic view for the Gion Festival. We were warmly welcomed by Ms. Fusae Kojima, homeowner and head of the Kyo-Machiya Rebirth Study Group, who shared her mission to preserve these historic townhouses, now decreasing in number across Kyoto.
Although rich in beauty and heritage, Machiya face challenges such as strict building regulations and high maintenance costs. Ms. Kojima highlighted the importance of community-driven initiatives, traditional craftsmanship, and finding a sustainable balance between tourism and everyday local life.
💡 From handcrafted sweets to historic homes, today’s experiences showcased how Japanese management values continuity, innovation, and social responsibility—while remaining deeply rooted in tradition.
MBA English Study Trip – Day 3: The Spirit of Japanese Management 🇯🇵
On the third day, we had the privilege of learning from Prof. Yoshikazu Maegawa, who offered deep insights into the unique business culture of Kyoto.
💡 Key Takeaways from the Lecture: “Business & Culture in Kyoto”
🧭 Kyoto – The Heart of Localism:
Kyoto truly embodies the “heart of localism,” where a “mild yankee economy” thrives. Forget chasing the lowest prices or highest quality – in Kyoto, it’s all about supporting local friends, family, and community ties.
🏯 Longevity Over Scale:
While global cities like Tokyo and Osaka chase growth and scale, Kyoto champions sustainability. Businesses may be smaller, but they often last centuries.
🏆 The Power of Shinise:
Japan boasts about 20,000 Shinise companies (businesses that over 100 years old), and Kyoto is a true hub, home to over 1,000 of them (3.6% of the national total!), specializing in everything from small manufacturing to traditional food and liquor. While Osaka has a similar number, Kyoto’s Shinise often represent a more intimate, locally-rooted business model.
💬 A thought-provoking day reminding us that success isn’t always about speed or scale—it can also be about staying power, values, and deep local roots.
MBA English Study Trip – Day 4: A Glimpse into the Future at Expo 2025 Osaka! 🚀
What an incredible day as we geared up for our visit to the future site of Expo 2025 in Osaka! Before heading out, we had the privilege of hearing from Professor Takeo Mori, who is deeply involved with the Union of Kansai Government and the Kansai Pavilion for the Expo. His insights into the preparations were truly mind-blowing!
Prof. Mori shared the vision behind Expo 2025: “Designing Future Society for Our Lives.” This powerful theme is broken down into three compelling subthemes: “Saving Lives,” “Empowering Lives,” and “Connecting Lives.” The entire concept is envisioned as a “People’s Living Lab” – a dynamic laboratory for a future society!
The driving idea behind all of this? To reconnect countries and foster unity amidst diversity, especially after the divisions felt during COVID-19. This spirit is beautifully symbolized by the awe-inspiring Grand Ring, one of the world’s largest wooden structures with an outer circumference of about 2KM – representing global connection!
Even the venue itself is a marvel: Yumeshima, a man-made island created from reclaimed waste, stands as a symbol of sustainable innovation and future-oriented thinking.
We’re so excited to witness the progress of this monumental event. It’s an incredible opportunity to witness how visionary ideas are brought to life!

MBA Class : Global Business Experience at Osaka

คณะนิสิตกลุ่ม MBA Young Executive รุ่นที่ 31/1 ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อรับประสบการณ์การเรียนรู้จากการเรียนในคลาสวิชา “Global Business Experience”

ทริป Global Business Experience ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก GLOBIS University หลักสูตร MBA อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ร่วมเป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่นิสิต MBA ของเราอยู่ที่โอซาก้า ระหว่างวันที่ 2 – 6 มิถุนายน 2568
📍 Day 1: Global Business Experience @ Osaka
Theme: Japanese Management and Sustainability 🇯🇵🌿
📚 เช้าวันแรกของคลาส นิสิตได้เรียนรู้ผ่านการบรรยายของ Prof. Jake Pratley จาก GLOBIS University ถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองหลังสงครามโลก จนถึงภาวะชะลอตัวในปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากทั้งปัจจัยระดับโลกและการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมในประเทศ
👥 ญี่ปุ่นในปัจจุบันกำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุ ครอบครัวขนาดเล็ก และอัตราคนโสดที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่คล้ายคลึงกับประเทศไทยในหลายมิติ นำไปสู่การปรับกลยุทธ์ของทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจท้องถิ่น เพื่อมองหา “โอกาสใหม่ในข้อจำกัด”
💡 Prof. Jake ยกตัวอย่างนวัตกรรมธุรกิจที่เกิดจากการตอบโจทย์สังคม เช่น:
• ร้านปิ้งย่าง/ราเมน/คาราโอเกะสำหรับคนเดียว
• ธุรกิจจัดงานศพแบบเฉพาะบุคคล
• รถไฟท่องเที่ยวสุดหรูระดับ 7 ดาว
• โรงเรียนติวเตอร์สำหรับผู้สูงวัย
• การนำหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
🧘‍♂️ นอกจากนี้ นิสิตยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อวิธีคิดทางธุรกิจ เช่น “Kyūdō” (Japanese Archery) ที่สะท้อนถึงสมาธิ ความแม่นยำ และความเคารพในกระบวนการ
📊 ปิดท้ายด้วยการวิเคราะห์กรณีศึกษาแบรนด์ Godiva ที่ต้องเผชิญความท้าทายจากพฤติกรรมผู้บริโภคญี่ปุ่นที่นิยมซื้อสินค้าตามฤดูกาล และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร ทำให้ต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ในการเพิ่มยอดขาย
📸 ส่วนบรรยากาศการเรียนรู้และไอเดียกลยุทธ์ที่นิสิตแต่ละกลุ่มเสนอ… ขอให้ภาพเล่าเรื่องแทนคำพูดแล้วกัน 😉

ต่อมา ทางคณะนิสิต MBA ได้มีโอกาสเรียนรู้จาก Prof. Suzuka Kobayakawa จาก GLOBIS University ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานกับ United Nations Development Programme (UNDP) และเคยใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศ อาทิ เนปาล ไนจีเรีย และสหรัฐอเมริกา ประสบการณ์เหล่านี้จุดประกายให้เธอกลับมาพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศบ้านเกิดของตนเอง ประเทศญี่ปุ่น 🇯🇵

💬 Prof. Suzuka ถ่ายทอดถึงปัญหาสังคมที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ เช่น
• ผู้สูงอายุในต่างจังหวัดที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีโอกาสพูดคุยหรือพบเจอผู้อื่นเป็นเวลาหลายวัน
• ความท้าทายของผู้หญิงที่ต้องทำงานนอกบ้านพร้อมกับเลี้ยงดูครอบครัว และ
• ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น สึนามิและแผ่นดินไหว ซึ่งทำให้ชุมชนต้องรวมพลังกันสร้างสรรค์ธุรกิจที่ยั่งยืนและเกื้อหนุนสังคม
🤝 ในช่วงท้ายของคลาส นิสิต MBA ได้ร่วมวิเคราะห์กรณีศึกษา KIBOW Impact Investment Funds ซึ่งเป็นตัวอย่างจริงของ Social Entrepreneurship จาก GLOBIS University ที่เกิดขึ้นภายใต้ KIBOW Foundation ซึ่งเป็นโมเดลของการลงทุนเพื่อสังคมที่ส่งเสริมทั้งความยั่งยืนของธุรกิจและความเข้มแข็งของชุมชน โดยความสำเร็จของ KIBOW เกิดจากความร่วมมือของ stakeholder ทุกฝ่ายที่ต้องการทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม
✨ บทเรียนสำคัญที่ได้จากวันนี้คือ…
“You are more resourceful than you think.”
หวังว่าแรงบันดาลใจนี้จะผลักดันให้นิสิต MBA ของเราเป็นผู้ริเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยต่อไป
🌱 เปิดโลกการรีไซเคิลกับ Panasonic Recycling Factory ประเทศญี่ปุ่น ♻️
ในวันที่สองของการเรียน นิสิต MBA ของเราได้รับโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชม โรงงานรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของ Panasonic โรงงานแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ดำเนินงานภายใต้บริษัทผู้ผลิตโดยตรง!
🇯🇵 ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีมาตรการด้านการรีไซเคิลเข้มงวดที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เนื่องจากพื้นที่จำกัดและความเสี่ยงจากโลหะหนักและสารพิษในเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงมีกฎหมายที่กำหนดให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก เช่น ทีวี ตู้เย็น แอร์ และเครื่องซักผ้า ต้องถูกรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดย ผู้บริโภคมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมรีไซเคิลเมื่อมีการทิ้งหรือเปลี่ยนสินค้า ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้สามารถชำระผ่านร้านค้าที่รับคืนสินค้า หรือที่ทำการไปรษณีย์ร่วมกับระบบคูปองรีไซเคิลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อให้การจัดการของเสียมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้
👷‍♀️ ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การถอดแยกเครื่องซักผ้า ทีวี แอร์ และตู้เย็น โดยเริ่มจากแรงงานมนุษย์ ไปจนถึงการใช้ หุ่นยนต์และ AI ช่วยจัดการวัสดุอันตราย เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่มีสารปรอท หรือสารทำความเย็นจากคอมเพรสเซอร์
🔧 ทุกชิ้นส่วนจะถูกแยกตามประเภทวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก โลหะ หรือแผงวงจร ก่อนเข้าสู่กระบวนการบด ย่อย และแยกด้วยเทคโนโลยี เช่น แม่เหล็กและระบบแยกตามน้ำหนัก เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🌍✨ กิจกรรมนี้ไม่เพียงแค่ให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปิดมุมมองใหม่เรื่อง “ความรับผิดชอบของธุรกิจและผู้บริโภคต่อทรัพยากรของโลก” ในเชิง ระบบคิดแบบยั่งยืน อย่างแท้จริง
ในช่วงบ่าย นิสิต MBA ของเราได้มีโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชม Shirayuki Sake Brewery ของตระกูล Konishi ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานสาเกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1550 และยังคงดำเนินกิจการโดยครอบครัวเดียวกันมายาวนานถึง 15 รุ่น
🏯 โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอิตามิ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการผลิตสาเกเพื่อส่งไปยังเมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) โดยใช้การขนส่งทางเรือ ท่ามกลางความเสี่ยงของการเดินทางในอดีต แต่บรรพบุรุษของตระกูล Konishi สามารถปรับตัวและวางระบบธุรกิจเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง และพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแยบยล
💬 ในการบรรยายของ ประธานบริษัทรุ่นที่ 15 Mr. Shinuemon Konishi ได้กล่าวถึงแนวทางการผสานระหว่าง ภูมิปัญญาดั้งเดิม และ นวัตกรรมยุคใหม่ เช่น การคงกระบวนการหมักแบบดั้งเดิมในบางขั้นตอน ร่วมกับการพัฒนาเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ เพื่อตอบโจทย์ตลาดปัจจุบันที่ต้องการทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ
🗣️ อีกหนึ่งแง่มุมสำคัญที่ประธานบริษัทเน้นย้ำคือ “การสื่อสาร” ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้าในอดีตผ่านระบบขนส่ง หรือการสื่อสารกับผู้บริโภคในยุคใหม่ผ่านเทคโนโลยีและเรื่องราวของแบรนด์
🥂 ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการ ชิมสาเกหลากหลายชนิด ที่ผลิตด้วยวิธีดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่ รสชาติที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์…น่าเสียดายที่เราไม่สามารถถ่ายทอดรสชาติผ่านภาพหรือคำบรรยายได้
วันที่สามของกิจกรรม นิสิต MBA ได้เรียนรู้วิสัยทัศน์ของงาน Expo 2025 Osaka จาก Prof. Takeo Mori ผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ Pavilion ของภูมิภาคคันไซ ภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” ที่แบ่งออกเป็น 3 แกนสำคัญ:
💡 Saving Lives
💡 Empowering Lives
💡 Connecting Lives
✨ Expo ครั้งนี้ถูกออกแบบให้เป็น “People’s Living Lab” หรือห้องทดลองสำหรับอนาคตของมนุษยชาติ ที่จะเชื่อมโลกให้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง หลังผ่านช่วงเวลาของความห่างเหินจาก COVID-19 โดยมี Grand Ring โครงสร้างไม้ขนาดยักษ์รอบเกาะยูเมะชิมะ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมโยงโลกทั้งใบ 🌍
🏝️ ไฮไลต์อีกอย่างคือสถานที่จัดงานบนเกาะยูเมะชิมะ ซึ่งเป็นเกาะที่สร้างขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล เป็นตัวอย่างของการออกแบบเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง
🧭 หลังบรรยาย นิสิตได้เข้าเยี่ยมชม Pavilion ต่าง ๆ ของนานาชาติและองค์กรชั้นนำทั่วโลก ที่สะท้อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคตในมิติต่าง ๆ

คณะนิสิตจาก Globis University,Japan เข้ารับฟังบรรยายจากวิทยากรพิเศษจาก MBA CHULA

วันที่ 30 เมษายน 2568 ในวันนี้ กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายหัวข้อ “ESG: ตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมในประเทศไทย” โดย ดร.กนก (เคน) กาญจนภู ซึ่งได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาทของ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของสังคมไทย การบรรยายนี้ช่วยให้นิสิตและนักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมอย่างรอบด้าน
ในช่วงบ่าย นิสิตและนักศึกษาได้เข้าร่วมบรรยายหัวข้อ “The Secrets of Long-Living Companies: Navigating the Test of Time” โดย ผศ.ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ ซึ่งได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับปัจจัยความสำเร็จขององค์กรไทยที่สามารถเติบโตและอยู่รอดผ่านกาลเวลาอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่การบริหารจัดการนวัตกรรม วัฒนธรรมองค์กร และการปรับตัวในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
และในช่วงสุดท้ายของกิจกรรม ได้มีการกล่าวสรุปพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนของที่ระลึก ซึ่งนิสิต MBA Chula ได้จัดเตรียมมาให้นักศึกษาจากทาง GLOBIS University ด้วยตนเอง ก่อนจะรับใบประกาศนียบัตร และแยกย้ายกันเดินทางกลับ ถือเป็นอันปิดจบกิจกรรมการเยี่ยมชมจาก GLOBIS University เป็นเวลา 3 วันได้อย่างสมบูรณ์
On April 30, 2025, the day began with a lecture on “ESG as a Driver for Social Innovation in Thailand” by Dr. Kanok (Ken) Kanchanapoo. Drawing from his extensive experience, Dr. Kanok emphasized how environmental, social, and governance (ESG) principles can drive meaningful and sustainable innovation within Thai society. The session highlighted the importance of integrating ESG into business strategies for a better future.
In the afternoon, students participated in a lecture titled “The Secrets of Long-Living Companies: Navigating the Test of Time” by Asst. Prof. Dr. Kritinee Pongtanalert. The session explored key factors contributing to the enduring success of organizations, including innovation management, organizational culture, and adaptability in a rapidly changing world.
During the final part of the program, a closing summary was delivered, followed by a souvenir exchange, with gifts personally prepared by MBA Chula students for the visiting students from GLOBIS University. The event concluded with the presentation of certificates, after which participants departed for their respective destinations — marking a successful completion of the 3-day visit from GLOBIS University.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save