Skip to main content

MBA Chula เผยความพร้อมต่อการผันแปรของทักษะความเป็นผู้นำในอนาคต

MBA Chula ได้แสดงถึงปรัชญาการเรียนรู้ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้ที่สำคัญสำหรับผู้บริหารในอนาคต

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการเปิดเผยข้อมูลการสำรวจที่มาจากความร่วมมือกันระหว่างคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CBS) และ World Economic Forum (WEF) โดยเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสายงาน และอาชีพในอนาคต ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือ ทักษะ – ความรู้ใหม่ที่คาดว่าจะเป็นตัวแปร หรือหัวใจสำคัญของบรรดาธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจในอนาคต ที่มีด้วยกัน 10 ด้านดังต่อไปนี้

  1. AI & Big Data – ปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลมหัต
  2. Analytic Thinking – การคิดเชิงวิเคราะห์
  3. Creative Thinking – การคิดเชิงสร้างสรรค์
  4. Leadership and Social Influence – ความเป็นผู้นำ และอิทธิพลทางสังคม
  5. Talent Management – การบริหารจัดการความสามารถ
  6. Resilience, Flexibility and Agility – ความอดทน, ความยืดหยุ่น และความคล่องตัว
  7. Curiosity and Lifelong Learning – ความช่างสงสัย และความต้องการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  8. Technology Literacy – ความรู้ในการจัดการกับเทคโนโลยี
  9. Environmental Stewardship – การดำเนินการที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม
  10. Service Orientation and Customer Service – การมีจิตมุ่งบริการ และการบริการลูกค้า

ทางหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MBA Chula) ก็ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น และพัฒนาหลักสูตรที่ช่วยเสริมสร้างทักษะ ความรู้ และความสามารถต่าง ๆ ที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้บริหารในอนาคต โดยถ่ายทอดออกมาผ่านหลักปรัชญาการเรียนรู้ (5C) ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการออกแบบเนื้อหาการเรียนการสอน และกิจกรรมต่าง ๆ หลักสูตร ที่เสริมสร้างทักษะ/ความรู้ในอนาคตเหล่านี้

  1. Critical Thinking: เป็นการคิดวิเคราะห์อย่างมีตรรกะและเป็นระบบ ซึ่งเกิดจากการประสานกันระหว่างความรู้เชิงทฤษฎี กับภาพธุรกิจจริง เพื่อให้ผู้บริหารสามารถคิดวิเคราะห์และการอธิบายกลไกธุรกิจในบริบทต่าง ๆ ได้ ซึ่งทักษะความรู้ในด้าน AI – Big Data และ Analytical Thinking จะมีบทบาทมาก และผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ผ่านวิชาที่เกี่ยวข้องกับ Data Science, Business Analytics และโมเดลการวิเคราะห์มากมายที่สอดแทรกในวิชาต่าง ๆ ของทางหลักสูตร
  2. Creativity คือ Create + Ability เป็นความสามารถในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น โดยหลักสูตรมุ่งเน้นรูปแบบการเรียนการสอนแบบ Experiential Learning ที่ไม่ได้แค่เรียนเนื้อหาแล้วนำไปสอบ หากแต่จะมีโครงงานให้ผู้เรียนได้นำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้จริง ด้วยการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องของคณาจารย์ ทำให้องค์ความรู้ที่สอนไม่ได้อยู่แค่เพียงตำราจากต่างประเทศ หากแต่เป็นองค์ความรู้ที่ที่ทันสมัยและประยุกต์ใช้ได้จริงในบริบทของสังคมและเศรษฐกิจทั้งใระดับประเทศและระดับสากล
  3. Care: การให้ความใส่ใจต่อทั้งคู่ค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ถือว่าความสอดคล้องกับทักษะ – ความรู้ในด้านของ Environmental Stewardship, Service Orientation and Customer Service ผ่านการปลูกฝังและเรียนรู้ในรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Share Values: CSV) ความยั่งยืน (Sustainability) และจริยธรรมทางธุรกิจ ซึ่งวิชาดังกล่าวนี้จะมีการนำผู้เรียนลงพื้นที่ชุมชนเพื่อช่วยคิดวางแผนแก้ปัญหาให้กับธุรกิจจริง เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ทั้งจากบทเรียนและประสบการณ์จริง
  4. Collaboration: ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในปรัชญาการเรียนรู้ที่ทาง MBA Chula ได้ส่งเสริมแก่ผู้เรียน โดยคุณสมบัติของผู้นำที่ดี คือ สามารถทำงานประสานกันเป็นทีม และดึงศักยภาพที่โดดเด่นของสมาชิกในทีมออกมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการทำงานได้ โดยผู้เรียนจะสามารถฝึกฝนทักษะเหล่านี้ได้จากการร่วมกันทำโครงงานต่าง ๆ ในแต่ละรายวิชา
  5. Communication: เป็นหนึ่งในทักษะที่ MBA Chula ให้ความสำคัญ เนื่องจากผู้บริหารที่ดีนั้นนอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว ยังต้องสามารถสื่อสารสิ่งที่ตนคิดให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ หลักสูตรได้ออกแบบรายวิชาที่ช่วยพัฒนาความสามารถของสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน ทั้งในการติดต่อธุรกิจ การสื่อสารภายในคณะทำงาน และการสื่อสารเพื่อสร้างอิทธิพลต่อสังคม

นอกเหนือไปจากในส่วนของปรัชญาการเรียนรู้ (5C) แล้วนั้น MBA Chula ยังมุ่งเน้นการส่งเสริม Global Mindset ผ่านการศึกษาดูงานในต่างประเทศ  โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรของหลักสูตรทั้งในและต่างประเทศ ที่เป็นสถาบันการศึกษาและองค์กรธุรกิจ  ทำให้สามารถเข้าถึงการดูงานที่ลึกซึ้งและสามารถเข้าใจบริบทของการทำธุรกิจข้ามชาติได้อย่างแท้จริง

ด้วยความพยายามที่จะพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เกิดองความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้น ล่าสุดหลักสูตรจึงได้ริเริ่มโครงการ Life Long Learning เพิ่มเปิดโอกาสให้นิสิตเก่าของหลักสูตรสามารถกลับมาเพิ่มพูนทักษะและความรู้ใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง กลไกการจัดการการเรียนการสอนเหล่านี้ เกิดจากความมุ่งหวังของ MBA Chula ที่จะผลิตผู้บริหารยุคใหม่ที่มีความสามารถพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น และคาดว่าผู้เรียนที่จบไปจากหลักสูตรนี้ จะเป็นแรงผลักดัน และขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://mba.cbs.chula.ac.th/

สำหรับผู้ที่ต้องการรับรู้ข่าวสารจากทางหลักสูตรก็สามารถติดตามได้ ณ Facebook Page : https://www.facebook.com/mbachulalongkorn

Chulalongkorn Business School’s MBA Program Prepares Leaders for Tomorrow

In an era of rapidly evolving workplace skills, the MBA Program at Chulalongkorn Business School (CBS) stands ready to equip future business leaders with the skills and knowledge needed for a sustainable future. Anchored in a 5C learning philosophy—Critical Thinking, Creativity, Care, Collaboration, and Communication—the program aims to forge leaders adept at navigating the challenges of tomorrow.

Assoc. Prof. Nuttapol Assarut, the Director of the CBS MBA Program, disclosed that the curriculum is crafted based on cutting-edge research on the skills vital for future business and economic landscapes. This is in partnership with the World Economic Forum (WEF), highlighting 10 essential skills for future business leaders, including AI & Big Data, Analytic Thinking, and Creative Thinking, among others.

The MBA at Chula is proactive in adapting its curriculum to the shifting skill landscape, focusing on enhancing the abilities, knowledge, and competencies of tomorrow’s leaders through its 5C learning strategy. This strategy informs the curriculum design, including:

Critical Thinking: Emphasizing rational and systematic analysis and interpretation of information. This encompasses understanding business mechanisms across various scenarios, with a significant focus on AI, Big Data, and Analytical Thinking. Courses in Data Science and Business Analytics are central to this pillar.

Creativity: Encouraging the generation of new ideas through experiential learning and projects. CBS leverages ongoing research to blend knowledge from global texts with practical applications, fostering creativity in both local and international contexts.

Care: Fostering a sense of responsibility towards stakeholders, communities, and the environment to build robust and sustainable businesses. This aligns with teachings in Environmental Stewardship and Customer Service, offering students practical experience through community engagement and sustainability projects.

Collaboration: Cultivating leadership qualities that promote teamwork and the maximization of team potential. Students engage in project-based learning to develop these collaborative skills.

Communication: Recognizing the critical role of effective communication in leadership. The program designs courses to enhance various communication skills, ensuring graduates can convey their ideas clearly and align teams towards common goals.

Assoc. Prof. Nuttapol highlighted the recent launch of the Life Long Learning project, encouraging alumni to continuously update their skills and knowledge, affirming the program’s commitment to producing visionary leaders ready for future challenges. The program aspires to be a catalyst for sustainable business development.

For additional details, please visit the MBA Chula website at https://mba.cbs.chula.ac.th/ or their Facebook page at https://www.facebook.com/mbachulalongkorn.

#MBAChula #CBS #ChulalongkornBusinessSchool #LifeLongLearning #FutureSkills

นิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MBA Chula) คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จากการประกวด Venture Capital Investment Competition-VCIC

นิสิตหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MBA Chula) คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จากเวทีการประกวด Venture Capital Investment Competition-VCIC ที่จัดขึ้นที่ Nanyang Technological University (NTU), Singapore เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ตัวแทนนิสิต 6 ท่านที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เป็นนิสิตหลักสูตร MBA Executive รุ่นที่ 37 ประกอบด้วย

1. นายธนกร จันทรังษี

2. นางสาวกาญจนา อุเทนดากรณ์

3. นายดิลก ตั้งฐานสัมมา

4. นายธษภิชญ ถาวรสุข

5. นายพัศพงศ์ ชมเชย

6. นายวิศรุต อมรชัยเจริญ

โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.คณิสร์ แสงโชติ และรองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ เป็นที่ปรึกษา

เวทีการประกวดในครั้งนี้วัดความสามารถของผู้เข้าแข่งขันที่สวมบทบาทนักวิเคราะห์ของกองทุน Venture Capital

ผู้แข่งขันต้องแสดงศักยภาพในการวิเคราะห์ศักยภาพของธุรกิจ start-up แต่ละรายที่เข้ามา pitch ประเมินมูลค่าและโอกาสต่อยอด เจรจาต่อรองเงื่อนไข และนำเสนอการตัดสินใจลงทุนใน start-up ที่เลือกให้คณะกรรมการลงทุน เป็นการจำลองการทำงานของ VC จริง

ผลงานของทีมแสดงถึงความสามารถของนิสิตในหลักสูตรฯ ที่ทัดเทียมมหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับนานาชาติ

#MBAChula#CBSChula#ChulalongkornBusinessSchool#VCIC

หลักสูตร MBA ร่วมงานแนะนำหลักสูตร ณ ประเทศกัมพูชา

ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา หลักสูตร MBA จุฬาฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมแนะนำหลักสูตรในงาน “Thailand Education & Jobs Fair 2024” ณ ศูนย์ประชุม CJCC กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตไทยและเครือข่ายนิสิตนักศึกษาไทยในประเทศกัมพูชา

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ลงทะเบียนกว่า 1,300 คน การออกข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์ 3 สำนักและสื่อออนไลน์อีก 6 สำนัก การรับชมผ่านไลฟ์ Facebook ของ สอท. กว่า 10,000 คน อีกทั้งยังได้รับการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น นับเป็นก้าวแรกของการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับหลักสูตรในหมู่นักเรียนนักศึกษาชาวกัมพูชา

#MBAChula#CBSChula#CBS#ChulalongkornBusinessSchool#ChulalongkornUniversity

นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับรางวัลระดับโลก

นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับรางวัลระดับโลก
.
นายตรัย สัสตวัฒนา นิสิตหลักสูตร MBA คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับรางวัล Entrepreneur of the year Award จากงานประกาศเกียรติคุณที่จัดขึ้นโดย Associations of MBA (AMBA) ที่เป็นสถาบันรับรองคุณภาพการศึกษาระดับนานาชาติ ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร
.
นายตรัยเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Tasted Better ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์แป้งเทียมเสริมอาหารที่เหมาะแก่ผู้บริโภคแบบโลว์คาร์บ (Low Carb), ผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องควบคุมน้ำตาล และลูกค้ากลุ่มดูแลสุขภาพ นับว่าเป็นนวัตกรรมในการเสริมสร้างสุขภาพของชาวไทยและชาวโลก โดยปัจจุบันมีการจดทะเบียนบริษัททั้งในไทยและออสเตรีย และยังมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ อีกในอนาคต
.
การที่นิสิตได้รับรางวัลครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการศึกษาของ บัญชีฯ จุฬา – Top Business School with Triple Crown Accreditation และนับว่าเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จตามโครงการ Chula Business Enterprise ที่เสริมสร้างคณะให้เป็น Chulalongkorn Business School, Real Business in the School
.

เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ MBA Executive รุ่นที่ 40 ปีการศึกษา 2567

เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ MBA Executive รุ่นที่ 40 เข้าเรียนในภาคปลาย ปีการศึกษา 2567

การรับสมัครนิสิต หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
นักบริหาร รุ่นที่ 40


เปิดรับสมัคร : ระหว่างวันที่ 8 มกราคม – 31 กรกฏาคม 2567
เริ่มเรียนปรับพื้นฐาน : ตุลาคม 2567
เปิดเรียนเทอมแรก : มกราคม 2568

สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานขั้นต่ำ 8 ปีและอายุ 30 ปีขึ้นไป
เรียนวันศุกร์เย็นและวันเสาร์เต็มวัน

รายละเอียดโปรแกรม 

Announce the list name of applicants for CU-BEST(English) 2/2023

Announce the list name of applicants for CU-BEST(English) 2/2023
ประกาศเลขที่สอบและผังสอบ การสอบ CU-BEST(English) 2/2023


[ Exam Room ]

Applicants can check ID-TEST and Exam room information by log in through
CUBEST(English) Application Website
( Tab “Application” –> Button “Print Test Place”


Exam Date : Sunday,December17, 2023. (9am – 12 pm)
Score Announcement : Wednesday, December20, 2023.
through CUBEST(English) Application Website
( Tab “History and Result”


NOTE FOR APPLICANTS :

In accordance with measures and guidelines required by related authorities. All Applicants are required to wear a mask at all times when they are in the the exam room.

 


MAP OF CBS

ระเบียบในการสอบ CU-BEST(English) : Test Taking Policy

1. เวลาเริ่มสอบ 9.00 น. – 12.00 น.
The duration of exam is between 9.00 am – 12.00 pm

2. ผู้ที่มาหลังเวลา 9.30 น. จะไม่อนุญาติให้เข้าสอบ
Any Person arrive later than 9.30 am will not be allow to take exam.

3. ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุมาแสดงเพื่อเป็นหลักฐานต่อ
  เจ้าหน้าที่คุมสอบ และจะต้องแสดงหลักฐานหากมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ / นามสกุล
  ระหว่างช่วงการสมัคร
Applicants must present their valid Thai national ID card/passport with their current pictures
     to participate in the room. Those who had their names or last names changed must also
     present formal evidence of the changes.  

4. ห้ามใช้เครื่องคำนวณทุกประเภท  และ ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
Do not use calculator in the exam. Turn off any communication devices during exam.

5. ต้องแต่งกายสุภาพในการเข้าสอบ
Wear proper attire

6. ห้ามคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อสอบ  ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดๆออกไปนอกห้องสอบโดยเด็ดขาด
Regardless of a means, the exam contents must not be copied, duplicated or taken out of the exam location.

7. หากทุจริตในการสอบ จะโดนตัดสิทธิ์ในการสอบ CU-BEST ตลอดไป
In case of cheating, the applicants will not be allowed to take the exam again.


————————————————————————————————-
 In accordance with measures and guidelines required by related authorities. All Applicants are required to wear a mask at all times when they are in the the exam room.

นิสิตประจำหลักสูตร Executive รุ่นที่ 38 และคณาจารย์จาก MBA Chula ได้เดินทางไปดูงาน ณ จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2566 นิสิตประจำหลักสูตร Executive รุ่นที่ 38 และคณาจารย์จาก MBA Chula ได้เดินทางไปดูงาน ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันแรกนี้ ทางหลักสูตรฯก็เริ่มต้นด้วยการไปดูงานที่ Hillkoff Learning Space โดยมีคุณณชาศิลป์ เจริญกุล, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ, บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด เป็นวิทยากรให้การอบรมภายในวันดังกล่าว

โดยคุณณชาศิลป์ได้ทำการเล่าถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น การเริ่มต้นของบริษัท, กระบวนการ/แนวทางการทำงาน, และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์จากส่วนต่าง ๆ ของเมล็ดกาแฟ (กาแฟ, เครื่องดื่มจากเนื้อเมล็ด), ถ่านชีวมวล และอื่น ๆ

ซึ่งจุดเด่นของฮิลคอฟฟ์นั้น คือการให้ความสำคัญกับนวัตกรรม – การวิจัยที่สามารถต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้แก่บริษัทได้ อีกทั้งยังมีในส่วนของกระบวนการการทำงานของบริษัทที่ยึดโยงกับชุมชนท้องถิ่น, เกษตรกร และสิ่งแวดล้อมเป็นหลักอีกด้วย

ในช่วงเวลาบ่าย กับวิสาหกิจชุมชน มู่ลี่ทอดิ้นเงิน By ป้าโต๊ะ OTOP อ.หางดง ซึ่งก็ได้ คุณประณต เตชะปัน ผู้สืบทอดดูแลกิจการในปัจจุบัน เป็นผู้นำชมวิสาหกิจ
.
ภายในการดูงาน ณ วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้นั้น นิสิตก็ได้รับชมกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการสาน และการเย็บผลิตภัณฑ์ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งที่เคยมีการวางขาย และที่กำลังจะวางขายภายในช่วงปี 2566/2567
.
นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนการอบรม และพูดคุยกับคุณประณตถึงการดำเนินกิจการของวิสาหกิจ และปัญหาที่วิสาหกิจกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ โดยตัววิสาหกิจนั้น ทำการขายผลิตภัณฑ์ประเภท Homemade และมีการจัดทำตามการสั่งซื้อเป็นหลัก ในส่วนของปัญหาที่พบเจอก็มีตั้งแต่แรงงานที่กำลังจะขาดแคลน เนื่องด้วยเป็นผู้สูงอายุเสียส่วนใหญ่, ช่องทางจำหน่าย และโอกาสเผยแพร่ยังน้อย อีกทั้งราคาของสินค้ามีความผันผวนตามตลาดที่จำหน่าย
วันที่ 2 ของทริปดูงานสำหรับ นิสิตหลักสูตร Executive รุ่นที่ 38 ประจำ MBA Chula โดยได้รับเกียรติจาก คุณนฤมล ทักษอุดม, กรรมการผู้จัดการ, บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ (Hillkoff) จำกัด มาบรรยาย และแลกเปลี่ยนความเห็น ณ โรงแรมยูนิมมาน เชียงใหม่
.
ในการบรรยาย คุณนฤมล ได้ทำการกล่าวภายในหัวข้อ Living in Sustainability, Harmony and Longevity ที่ได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธุรกิจ และแนวทาง – รูปแบบในการดำเนินธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน, ความเหมาะสม และความยืนยาวของธุรกิจ
.
โดยสรุปแล้วนั้น แรงบันดาลใจของคุณนฤมลก็คือความตั้งใจในการสานต่อความสำเร็จของคนรุ่นก่อนให้ต่อเนื่อง และพร้อมที่จะส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป ซึ่งการจะสามารถทำเช่นนั้นได้ก็ต้องมีการสืบกลับที่ต้นตอของธุรกิจว่าเกิดขึ้นจากอะไร และการลงทุนทางธุรกิจควรมีการคำนึงถึงกับความคิด/แนวคิดไปด้วย
.
ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ Hillkoff ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ, สิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มีรากฐานมาจากผลิตภัณฑ์ตั้งต้นของบริษัท : กาแฟ

เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ MBA Young Executive รุ่นที่ 31/1 ปีการศึกษา 2567

เปิดรับสมัครนิสิตใหม่ MBA Young Executive รุ่นที่ 31/1 ประจำภาคต้น ปีการศึกษา 2567

การรับสมัครนิสิต หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
นักบริหารระดับต้น รุ่นที่ 31/1


เปิดรับสมัคร : ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567
เริ่มเรียน : มิถุนายน 2567 

รายละเอียดโปรแกรม 

คณะนิสิตจาก Hiroshima Business and Management School (HBMS)เดินทางมาทัศนศึกษาและดูงานยังประเทศไทยและคณะบัญชี จุฬา

วันที่ 3 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา Hiroshima Business and Management School (HBMS), Prefectural University of Hiroshima ได้เดินทางมาทัศนศึกษาและดูงานยังประเทศไทย โดยมี MBA Chula เป็นผู้ดูแล ในวันแรกของการดูงาน รศ.ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ ประธานหลักสูตรฯ เป็นผู้กล่าวแนะนำคณะ พร้อมทั้งพาชมสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในคณะ อาทิ ห้องปฏิบัติการทางการเงิน (Financial Lab) และห้อง Management Theater หรือห้องเภตราลัย

ต่อจากนั้น รศ. ดร.ณัฐพล ได้บรรยายในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ของธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย” (Japanese Firm Strategy in Thailand) ซึ่งจะกล่าวถึง ความต่างในวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมประหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับตัวของธุรกิจญี่ปุ่นในการเข้าสู่ตลาดประเทศไทย

หลังจากนั้นจึงปิดท้ายด้วยการกล่าวต้อนรับอีกครั้งจาก ศ.ดร. วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนของที่ระลึกระหว่างทั้ง 2 มหาวิทยาลัย

วันที่ 2 ของการดูงานภายในประเทศของ HBMS โดยเริ่มต้นด้วยการอบรมจาก ผศ.ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ ที่มาบรรยายภายใต้หัวข้อ “ทำความเข้าใจวัฒนธรรมไทย” (Understanding Thai Culture) ซึ่งก็มีนิสิตไทยจากหลักสูตร Regular รุ่นที่ 42 ของ MBA Chula มาเข้าร่วมการอบรมด้วย
.
เนื้อหาของการอบรมนั้น ก็คือการนำเสนอความรู้ในส่วนของวัฒนธรรมไทย โดยเป็นการบรรยายแบบเบื้องต้น และภาพรวมเพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้ง 2 ประเทศนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
.
โดย ผศ.ดร.กฤตินี ได้นำเสนอว่าวัฒนธรรมของไทยนั้น ก็มีความผูกโยงกับแนวคิดชนชั้นตามประวัติศาสตร์ไทย สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมที่เราเห็นได้ในปัจจุบันอย่าง เฟอร์นิเจอร์, อาหาร และการแสดงนั้น มีรากฐานมาจากชนชั้นนำ เช่นเดียวกับสิ่งที่เราไม่เห็น อาทิ ค่านิยมทางความคิด, ขนบธรรมเนียม กิริยามารยาท และพฤติกรรม ที่มีรากฐาน และความเกี่ยวพันกับแนวคิดเรื่องชนชั้นของไทยเช่นกัน
.
กล่าวโดยสรุปแล้วนั้น แนวคิดเรื่องชนชั้นของประเทศไทยมีผลกระทบเป็นอย่างยิ่งกับวัฒนธรรมของประเทศ
 
ในภาคบ่ายของการเรียน คุณธิษณา ธิติศักดิ์สกุล Chief Executive Officer & Co-founder ของ Noburo ได้ทำการนำเสนอภายในหัวข้อ “Noburo (Social Start-up) Financial well-being for your employees”
.
โดยเป็นการพูดถึงตัวบริษัท Noburo ซึ่งเริ่มตั้งแต่แรงบัลดาลใจในการก่อตั้งบริษัท และหลักในการก่อตั้ง ที่มีฐานมาจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาระยะยาวด้วยองค์ความรู้, เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงความคิดที่ว่าการทำจิตอาสาไม่ใช่การแก้ไขในระยะยาว และไม่มีความยั่งยืน ในส่วนของกลุ่มเป้าหมายของ Noburo นั้นก็คือกลุ่มแรงงานที่มีรายได้ต่ำ และมีภาระหนี้ – ประวัติการเงินเสีย
.
คุณธิษณา ได้อธิบายการทำงานของ Noburo ไว้ว่าทางบริษัทจะเข้าไปช่วยจัดการ และบริหารในส่วนของการเงินของผู้ที่ความต้องการ ผ่านการดำเนินการ 2 ส่วนด้วยกันได้แก่ การจัดการกับหนี้นอกระบบ และการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อชำระหนี้อื่น ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทาง Noburo มองว่าปัญหาส่วนใหญ่มาจากความคิดของเราที่ต้องเริ่มแก้ด้วยการแก้ไขความคิด แล้วจึงตามมาด้วยการวางแผนทางการเงินเพื่อชำระหนี้ต่าง ๆ ที่มี จนมาถึงการลงมือในที่สุด
เพื่อเป็นการส่งท้ายการมาเยือนของ HBMS ทาง MBA Chula ได้นำคณะผู้มาเยือนจากฮิโรชิมะ ไปเยี่ยมชมหนึ่งในบรรดาหน้าร้านของ Thann บริษัททางด้านธุรกิจอโรมาเธอราพี, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวธรรมชาติชื่อดัง โดยได้รับเกียรติจาก คุณฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ – Founder of Thann & MD of Thann-Oryza Co., Ltd. มาให้การต้อนรับ ณ Thann Sanctuary Sukhumvit 47
พร้อมกันนี้ คุณฐิติพัฒน์ ยังได้ทำการบรรยายถึงแนวทางที่ใช้ในการบริหารงาน Thann ให้ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน
โดยพอหลังจากจบการบรรยายแล้วนั้น ผู้เข้าร่วมชมทุกท่านยังได้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ Thann ได้เตรียมไว้ให้อีกด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save